สัก กว่า ๓๐ ปีล่วงมา ครั้งที่ยังไม่มีร้านรวงดาดดื่นอย่างวันนี้ ทุกบ้านจะทำกับข้าวกับปลากันครบ ๓ มื้อ แทบทุกบ้านมีลูกเด็กเล็กแดง กำลังโต กำลังกิน “เงินกองกลาง” สำหรับจ่ายกับข้าว ขนม ของจุกจิก ในแต่ละวัน แม่บ้านจะเตรียมไว้ “กระเป๋าแดง” กระเป๋าเหรียญใบน้อยเดียว เหน็บอยู่ข้างตู้กับข้าว แม่จะเติมเงินไว้ตลอดให้ พี่เลี้ยงไปจ่ายของสดต่างๆ นานา แต่ละวันซื้ออะไรไป ลงบัญชีไว้ ให้เตือนใจว่า อย่ากินทิ้งกินขว้าง เด็กๆ เมื่ออยากจะกินขนมอะไร เรามักย่องไปดูว่า เหลือสักกี่มากน้อย พอจะซื้อได้ไหม หากวันไหน เงินในกระเป๋าแดงพร่อง ก็จะรู้สึก “เสียหวัง” รอจนกว่าแม่จะมาเติมเงินลงในกระเป๋าอีก
ผ่านมาจนเข้าวัยผู้ใหญ่ แม่ยังคงทำงานที่บริษัทเก่าแก่ ๕๐ กว่าปี แม่ไม่เคยทำงานที่อื่นเลย ยังคงมีเงินเดือน และ ยังคงเคยชิน เติมเงินลงใน “กระเป๋าแดง” ทว่าเป็นเงินที่ลูกให้ไว้ใช้จ่ายในบ้าน ในช่วงหลายปีมานี้ จะเติมเงินลงใน “กระเป๋าแดง” ทุกสัปดาห์ละ ๑,๐๐๐ บาท สำหรับใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ยิ่งในช่วงเกิดโรคระบาดนี้ คนมาส่งของ แม่ จะสอดเงินน้อย ใบละ ๕๐ บาท ไว้ตรงร่องประตู คนส่งยกมือไหว้ท่วมหัว
เงินใน “กระเป๋าแดง” ไม่มีมากมายอะไร เติมเข้าไว้เรื่อยๆ ครั้งหนึ่ง เมื่อยังเด็กยังน้อย “กระเป๋าแดง” เป็นความหวังของเรา ที่จะได้กินอิ่ม กินเล่น วันนี้ แม่เดินมาเปิดดู เห็นเงินใน “กระเป๋าแดง” ก็จะยิ้ม ยิ่งกว่าเงิน คือ ความอุ่นใจและการปันแบ่งปันจ่าย ช่วยคนผ่านไปผ่านมา๕๐ - ๑๐๐ บาท ต่อลมหายใจกันและกัน สำคัญ คือ ต่อลมหายใจแม่ เพราะรู้ว่า บ้านยังมีชีวิตชีวา
Comments