top of page

กังไสสยาม : ตอนที่ 1/3


เมื่ออาหลงกลับไป โกเบ๋ง ยังคงคิดเรื่องราวเก่าก่อน ในภวังค์ทุกอย่างยังคงแจ่มชัด เสียงคนงานในเรือดังโหวกเหวก ตะโกนไปมาระหว่างที่มีการขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือ เมืองปอนติอานักบนเกาะบอร์เนียว การเดินทางบนเรือสินค้าเกือบเดือนใกล้สิ้นสุดลง สามหนุ่มยังคงไว้ผมเปียยาวตามแบบอนุรักษ์นิยม เฝ้ามองดูสินค้าที่ค่อยๆ ถูกชักรอกลงไปยังเรือเล็ก สินค้าจากเมืองจีน ย่อมเป็นที่ต้องการของชาวจีนโพ้นทะเลเสมอ อาเบ๋งคิดในใจ วันหนึ่งจะต้องทำการค้าให้ร่ำรวย เอาเงินทองกลับไปสร้างบ้านให้แม่และน้องๆ สายตาของทั้ง 3 คน ระคนตื่นเต้นและมุ่งมั่น เรือสินค้าจอดที่เมืองปอนติอานักอยู่ 2 วัน แล้วมุ่งหน้าสู่ปัตตาเวีย


“อาฮง สงสัยใกล้ถึงปัตตาเวียแล้ว ดูสิ มีเรือเยอะแยะเลย” อาเบ๋งชวนอาฮง พี่ชายมาดู

“ตื่นเต้นจัง อาเบ๋ง นี่อาหลี่จะจำพวกเราได้ไหม เพราะพวกเราเองก็จำอาหลี่ไม่ได้ แม่บอกว่าตอนอาหลี่ออกมาปัตตาเวีย พวกเรายังเด็กอยู่มาก อาหลี่นับถืออาป๊าของเรามาก” อาฮงเล่า


อาบั๊ก ผู้นำทางอารมณ์ดีผ่านมาได้ยิน “ลื้อ 3 คนไม่ต้องห่วงนะ อั๊วรู้จักอาหลี่ดี อั๊วว่าอาหลี่จะหางานให้ลื้อ 3 คนทำได้นะ อีทำงานในห้างใหญ่ ขายทั้ง ข้าว แป้งมัน น้ำมันตะเกียง อะไรๆ ห้างอีก็มี”


เรือสินค้าเข้าเทียบทา อาบั๊กจัดการเอกสารต่างๆ ของทั้ง 3 คน แล้วหายไปพักใหญ่ สักพักอาบั๊กเดินกลับมา มีชายหนุ่ม รูปร่างล่ำสัน สวมเสื้อแขนยาวถึงข้อมือ สีน้ำตาลกลางเก่ากลางใหม่ กับกางเกงสีเข้ากัน ที่กระเป๋าเสื้อมีสายโลหะ คล้อง ดูน่าเชื่อถือ


“อาฮง อาเบ๋ง อาหลง รู้จักอาหลี่เสีย นี่ล่ะ คนที่แม่ๆ ของลื้อ 3 คนฝากมาให้พบ”


เด็กหนุ่มทั้ง 3 คนกล่าวทักทาย อาหลี่ แล้วเดินตามอาหลี่ไป อาเบ๋งหันกลับมามอง อาบั๊ก น้ำตาคลอ พร้อมกล่าวขอบคุณที่อาบั๊กช่วยดูแลมาตลอดการเดินทาง


“เฮ่ย อาเบ๋ง ลื้อไม่ต้องร้องไห้นะ ยังไงอั๊วก็ต้องไปเยี่ยมพวกลื้อ 3 คน”


“โกบั๊ก เราจะรีบจ่ายค่าเดินทางส่วนที่เหลือให้เร็วที่สุด” อาฮงพี่ชายคนใหญ่เอ่ย


“เฮ่ย ไม่ต้องคิดมาก ทำงานสักพัก ลื้อ 3 คนค่อยเอามาจ่ายก็ได้ อั๊วอยู่แถวนี้ ไม่ได้ไปไหน ไปๆ มาๆ เอ้หมึง ปัตตาเวีย”

อาบั๊ก เหมือนญาติผู้พี่ ไม่เคยนึกรังเกียจ 3 หนุ่มที่ตกระกำลำบาก อดอยาก ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล มาตายเอาดาบหน้า


ข้าวของต่างๆ อาบั๊กจะจัดส่งไปให้ตามที่อยู่ของอาหลี่ ทั้ง 3 คนมีสัมภาระติดตัวไม่มาก อาหลี่พอจะดูออกวว่าทั้ง 3 คนคงจะหิว เพราะบ่ายมากแล้ว เมื่อจัดการเรื่องค่าเหยียบเมือง ต่างด้าวเสร็จจึงพาทั้ง 3 คนไปกินข้าว เพราะจะอย่างไร ก็ต้องรอรถไฟอีกเกือบชั่วโมง เพื่อเข้าตัวเมืองปัตตาเวีย


“กินได้ไหม อาฮง อาหลง อาเบ๋ง”


ทั้ง 3 คนมองอาหารที่อยู่ตรงหน้า ดูคล้ายข้าวผัดแต่สีออกแดง เลิ่กลั่ก แต่ก็ตักใส่ปาก แล้วก็ชงักไป เพราะความอร่อย


“กินได้ครับ โกหลี่ อร่อยมากด้วย”


“ข้าวผัด แฮบี้เฮียม คนจีนที่นี่ทำขึ้นมา เอาน้ำพริกแบบปัตตาเวีย เผ็ดนิดหน่อย ใส่กุ้งแห้งลงไป ให้มีเนื้อเพิ่มขึ้น เดี๋ยวไปถึงที่พัก แล้วมื้อเย็น ค่อยหาอะไรแบบจีนๆกินแล้วกัน ที่นี่ กับข้าว หมู เป็ด ไก่ เยอะแยะ ไม่ต้องกลัวอด”


คำว่า “อด” สกิดให้ทั้ง 3 คน น้ำตาคลอ ไม่รู้ว่าป่านนี้ แม่ๆ และน้องๆ จะเป็นอย่างไร ดูเหมือนอาฮง จะรู้ตัวก่อน เพราะโตที่สุด จึงเตือนให้ทั้งอาหลงและอาเบ๋งเข้มแข็ง


“ดีมาก อาฮง เราต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้ครอบครัวที่เอ้หมึงสบายขึ้น นับแต่วันพรุ่งนี้ จะไม่มีเวลาให้เหงา คิดถึงบ้าน ทุกลมหายใจคือการทำงาน


“เตรียมตัวกันได้แล้ว รถไฟเข้าเมืองจะมาแล้ว” อาหลี่เรียกทุกคน




Comments


bottom of page