top of page

ของกินเล่น (๒) : ถั่วแพ กล้วยทับ


ย้อนกลับไปสัก ๔๐ ปีที่แล้ว บ้านเมืองไม่ทันสมัย ฝรั่งดั้งขอจัดประเทศไทย อยู่ในกลุ่ม “ด้อยพัฒนา” “โลกที่สาม” ความเป็นเด็ก เราก็ท่องจำมาแต่นั้น ไม่ได้รู้ร้อนหนาวอะไร “ด้อยพัฒนา” แต่ก็มีข้าว ขนม กินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ครัวเรือนในยุคนั้น ผู้หญิง เริ่มออกไปทำงานนอกบ้าน ลำพังเงินเดือน สามี คงไม่พอ ตกเย็น เด็กๆ ก็จะเฝ้ารอว่า “แม่” จะซื้อขนมอะไรกลับมา


ถั่วแพ กล้วยทับ เป็นขนมพื้นๆ กินกันโดยทั่ว ไม่ว่าจะเด็ก หนุ่มสาว แก่เฒ่า เพราะไม่มีอะไรซับซ้อนกว่านี้ให้กิน ในโลกแห่งความด้อยพัฒนา รู้สึกว่าเรากินอยู่ง่าย มีอะไรให้กินเท่าไร ก็กินเท่านั้น ไม่ค่อยจะกระเสือกกระสน ทำของกินให้ผิดแผกออกไป ถั่วลิสงตากแห้ง ฆ่าเชื้อโรคเชื้อรา เอามาคลุกกับแป้งทอด คนให้แป้งไม่จับก้อน ใช้ช้อนตักแกง ตวงขึ้น อย่าให้ล้นนัก หย่อนลงในน้ำมันร้อนจัด โบราณมักใช้กะทะทองเหลือง เพราะให้ความร้อนเสมอกัน สักพัก แพถั่วในช้อนจะร่อนออก ปล่อยให้แพถั่วลอยในน้ำมัน คอยดูให้เหลืองดี แล้วตักขึ้นรองซับน้ำมัน โบราณก็เรียงใส่ถุง ๕ แพ ๑๐ บาท เดี่ยวนี้คงไม่ได้ราคานี้


กล้วยทับ บ้านเมืองเรา กล้วย มีอยู่ดกดื่น น้ำว้ามะลิอ่องเห็นจะมากที่สุด เลือกใบที่ห่ามค่อนสุก ให้ออกเหลืองหน่อยหนึ่ง เอาขึ้นย่างไฟอ่อน คอยพลิกลูกกล้วย อย่าให้ไหม้ กล้วยเมื่อ “ถึงไฟ” เนื้อในจะระอุ เอาขึ้น “หนีบ” ด้วยไม้ทับกล้วย ให้ดีรองใบตองก่อน กล้วยไม่ติดไม้ น้ำตาลเคี่ยวราดกล้วย ใช้น้ำตาลมะพร้าว ตั้งไฟ แทบไม่ต้องปรุงรสอะไรเลย อาจใส่เตยสัก ๒ ใบ เคี่ยวเตาถ่านจะหอมนวล


ผ่านมา ๔๐ กว่าปี ดีใจที่ยังเห็นของกินทั้ง ๒ อย่าง แม่ ยังคงซื้อของกินแบบเดิม นางว่า “ไม่รู้จะซื้ออะไร ปากหม้อก็ไม่มาขาย เอาไปกินสิ เขาใส่โหลหยิบง่าย” คนรุ่นก่อน ก็จะรู้จักของกินอย่างที่เขาคุ้นเคย ให้ซื้อแปลกกว่านี้ ก็ไม่ซื้อ โลกในรุ่นเก่า เรียบง่าย กิน ใช้ อย่างที่มี ไม่ดิ้นรนอะไรให้มากความลำบากตัว #เรือนบางระมาด


อ่านเพิ่มเติมที่ www.ruenbangramat.com



6 views0 comments

Recent Posts

See All

Comentarios


bottom of page