top of page

ของกินเล่น (๓) รังไร ขี้หนู น้ำดอกไม้



“ตลาดสะพานหัน” มีร้อยหมดร้อย มีพันหมดพัน คนอายุสัก ๔๕ ปีขึ้นไป สมัยที่ยังไม่ห้างสรรพสินค้ามากมายอย่างปัจจุบันนี้ มักจะไปจับจ่ายกันแถว สะพานหัน ซึ่งเป็นตรอกแคบๆ จากฝั่งพาหุรัดไปออกหัวเม็ด หากข้ามไปอีกทอด ก็เป็นสำเพ็ง ตลอดตรอก แออัดคับแคบ เดินไปมาต้องคอยหลบรถเข็น ระวังกระเป๋าตังค์ แต่สะพานหันก็ไม่เคยหมดเสนห์ ก่อนจะสุดฝั่งทางหัวเม็ด จะเห็น “หาบขนม” มี น้ำดอกไม้ ขี้หนู รังไร ขนมถ้วยใบเตย ก่อนหน้านี้สัก ๔-๕ ปี คุณป้าให้ลูกสาวมาขายแทน ด้วยความที่แกนั่งพับบนเก้าอี้เตี้ยมานาน หัวเข่าอะไรๆ ดูจะเสื่อมไป เก้าอี้ไม้แผ่นหนา สาแหรกหาบเก่าคร่ำ ซ่อมแล้วซ่อมอีก ไม้คานขึ้นเงา ทั้งปวง ดู “เข้มขลัง” เพราะเลี้ยงชีวิตแกมา ตั้งแต่รุ่นแม่


“น้ำดอกไม้เลิกทำแล้วหนู ยุ่งยาก คนกินก็น้อยลง กินไม่เบื่อหรือ เห็นกินมาแต่เล็กแต่น้อย แม่ล่ะ สบายดีไหม ไม่เห็นมาซื้อของเลย” โลกของคนสมัยก่อนมัน “เวียนวน” กันอยู่แค่นั้น แม่ ซื้อของตรอกสะพานหันมาแต่สาวๆ ชุดนอนลูก เสื้อผ้าป่านพ่อ ลูกเหม็น กรรไกร สารพัดบรรดามี ซื้อกันยกโหล เจอหน้ากัน ก็จะถามหา เจ็บป่วย หรือเปล่า บางคนก็ล้มหายตายจาก ฝากเงินไปช่วยกัน


“เอาไปกิน เอาไปกิน ของเหลืออยู่แค่นี้ ขายไม่ได้หรอก” ป้ามักจะบอกแบบนี้เสมอ หากไปตลาดเอาบ่ายคล้อยมากแล้ว ในบรรดาขนมร้านนี้ “น้ำดอกไม้” คือ ไร้มือเปรียบ คุณป้าจะทำแบบ สีอ่อน ขาว ชมพู ฟ้า “เวลานึ่งสุก จะมีน้ำหล่ออยู่ตรงกลาง ต้องรีบแคะออกจากถ้วยตไล ถึงเรียกน้ำดอกไม้ ไงล่ะ” นางจะเล่านั่นเล่านี่ให้ฟัง “รังไร” สีอ่อนหวาน น้ำตาลผง ซึ่งเอาน้ำตาลทรายไปตำอีกครั้ง เจืองาคั่ว มะพร้าวขูด กะทิข้น ให้กำลังอย่างดีในหน้าร้อน ทานกันชาจีนตัดรสกันดีเหลือเกิน “ขี้หนู” เป็นขนมที่ไม่ชอบกินเอาเสียเลย ติดลิ้นติดฟัน ปากคอสากไปหมด ขนมถ้วยใบเตย หอมหวานน้ำตาลเคี่ยว “น้ำตาลต้องแม่กลอง อัมพวา ที่อื่น ไม่เคยปาก สีไม่สวยด้วย” เนื้อขนมถ้วยเหนียวพอดีกิน กินใบเตยไม่จัดนัก


ในยามโรคระบาด ร้านรวงหาบเร่นานา ที่เคยเรียงราย หนีหายกันหมด คงอีกไม่นานจะได้กลับมาค้าขายกันอย่างเดิมและแออัดน้อยลง #เรือนบางระมาด


อ่านเพิ่มเติมที่ www.ruenbangramat.com



46 views0 comments

Recent Posts

See All

Commentaires


bottom of page