top of page

ดวงโคม


จะผ่านมากี่ ๑๐ ปี คลองชักพระ ยังคงเสนห์อย่างหนึ่งไว้ คือ ความสงบ ย่ำค่ำ เสียงเครื่องเรือจะเริ่มซาลง รายคลองไป ดวงโคมเริ่มส่องสว่างให้ทาง เรือแจว ที่ยังพายกันอยู่ เพราะคลองชักพระมีคลองซอยมาก ออกบางระมาด ลัดเข้าบางพรม ไปถึง คลองควาย ออกนราภิรมย์ หรือจะเข้าคลองบัว ไปออกคลองมหาสวัสดี ก็ย่อมได้ เมื่อลดประตูน้ำลง คลองจะ เงียบสนิท เพราะเรือจากคลองบางกอกน้อยจะเข้าไม่ได้แล้ว แต่ยังคงมี เรือชาวบ้านแจวหากัน


จากหน้าต่างห้อง จะมองเห็นดวงโคมหนึ่ง ส่องสว่าง เหนือเรือนแพ งามสบายตา ดวงโคมนี้ ให้ทางเรือไว้ไม่ให้ชนเข้ากับแพ เรือนริมคลองตรงนั้น พลอยได้ใช้แสงส่องนี่ด้วย ยามบ้านเมืองเกิดโรคระบาดหนาหนัก คลองชักพระ ยังสงบ แถวนี้ แทบไม่มีคนป่วยเลย ชาวบ้านเก็บตัวอยู่ในสวนริมคลองเงียบ ต่างค่อยปรับตัวไป อาจเป็นด้วยย่านถิ่นนี้ไม่หวือหวาแต่ไหนแต่ไรมา ชาวบ้านจึงพอเอาตัวรอดได้ ยายไพจะตั้งแผงขายผลไม้ตรงหน้าอำเภอตลิ่งชัน แกนั่งในที่โล่งของแก โปร่งๆ พูดแต่น้อย ขายได้มากบ้าง น้อยบ้าง พอไปได้


ยายไพมักบอก “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทุกข์ไปก็เท่านั้น รักษาตัวเองได้ก็เก่ง คนมันดื้อ ดึงดัน ไม่ระวังกันเลย” ยายไพมักบ่นเมื่อเห็นคนจับกลุ่มกันกินข้าว สูบบุหรี่ พูดคุยกัน


แสงโคมอีกดวงตรงปากคลองวัดตลิ่งชัน จะทอดแสงเข้ามาในห้องพอดี เวลานั่งเล่นอยู่ริมหน้าต่าง ก็มักมองไปที่ปากคลอง เสียงชาวบ้านคุยกันพอจับความได้ ทั้งเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย หุงข้าวต้มแกง ใบตองใบบัว วันพรุ่งจะทำอะไรกิน อะไรขาย ห่อหมก จะมีโหระพา พอไหม ถ่ายทอดความรู้แก่กัน ฟังเพลินพอให้ใจสบาย #เรือนบางระมาด


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ruenbangramat.com



20 views0 comments

Recent Posts

See All

Comments


bottom of page