ฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 ได้เดินทางไปบรรยายแนวทางการสอนภาษาไทยแก่ชาวต่างประเทศที่ สวิตเซอร์แลนด์ อย่างเคย มีนัดกับ อนุชก้า ไว้ เพื่อนเก่าสมัยอยู่หอพักเดียวกันที่มหาวิทยาลัยเวียนนา ออสเตรีย พื้นเพนางเป็นคน Voralberg ทางตะวันตกสุดของออสเตรีย ประชิดชายแดนด้านตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองเอกคือ St. Gallen จากสถานีกลางที่ซูริค นั่งรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟไกลๆ จะรู้สึกตื่นเต้น ไม่เคยนั่งรถไฟไปทางตะวันออกเลย
เดิมที เราวางแผนจะไปกินกลางวันกันที่ Bregrenz แต่ตั๋วรถไฟข้ามแดนไม่มี ต้องต่อกันวุ่นวาย และราคาสูงขึ้นไปอีก หากใช้เป็นตั๋ววัน ลงที่ St. Gallen จะสะดวกกว่า แล้วอนุชก้ามารับที่นี่ วันที่ไปถึง St. Gallen ยังเช้าอยู่มาก ร้านรวงไม่เปิดดี ได้แต่เดินชมรอบๆ เมือง และดื่มกาแฟรอ อันที่จริง ยังนั่งต่อไปได้ถึงสถานี St. Margrethen สุดชายแดน แต่เมืองเล็กไม่ค่อยจะมีร้านอาหารสักเท่าไร สวิตเซอร์แลนด์ แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ทว่าแต่ละทิศมีทิวทัศน์สวยงามต่างกัน สายตะวันออกนี้ ฟ้าสดใส ทิวเขา Alps สูงทะมึน ป่าดูโปร่งตากว่าทางตอนกลางและตอนใต้มาก สิ้นเสียงประกาศฉันลงที่สถานีเมืองนี้ เราเปลี่ยนแผนไปกินกลางวันที่ Vaduz Lichtenstein เอาจริงแล้ว ร้านปิด จึงต้องไปที่เมือง Feldkirsch ในออสเตรียแทน
St. Gallen เป็นเมืองเล็กๆ สงบเงียบในขุนเขา สิ่งที่น่าเที่ยวชมคือ มหาวิหาร St. Gall ด้านหน้ามีหอคอยคู่ขนาบประตูทางเข้าวิหาร ดูแล้วน่าจะเป็นสกุลช่างแบบ baroque ภายในวิหารภาพฝาผนังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระคริสต์ตกแต่งขลิบทองหรูหราแบบ baroque แท้ เสียแต่ว่าทางมหาวิหารไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ เพราะวันที่ไป มีพิธีมิซซา พอดี มหาวิหารนี้อยู่ในนิกายเบเนดิคทีน (Benedigtine) ซึ่งค่อนข้างเคร่งครัด และยังเป็นจุดพักทางในการจาริก (Wallfahrt) ในช่วงใบไม้ผลิด้วย ด้านหลังของมหาวิหารมีห้องสมุดเก่าแก่ซึ่งเก็บต้นฉบับโบราณ ผัง ภาพ ต่างๆ ในยุคกลางมากมาย ค่าเข้าชมก็แกงเอาเรื่องทีเดียว แต่ไหนๆ มาถึงที่แล้ว ก็ต้องชมให้ซาบซึ้งความงาม
รถไฟสายที่จะเข้า Germany จะต้องวิ่งผ่านเมืองนี้ เมื่อตอนกลับจาก Munich เยอรมนี เข้าสวิตเซอร์แลนด์ นั่งรถไฟนานมาก ผ่านสถานีต่างๆ ก็ไม่ถึง St. Gallen สักที เพราะยังต้องนั่งต่อไปถึงสถานีกลาง Zürich แต่ต่ออีกทอดหนึ่งไปสถานี Aarau กว่าจะถึงวัดศรีนครินทรวราราม ที่พักก็ใช้เวลาพอควรทุกครั้งที่นั่งรถไฟ หากได้ยินเสียงประกาศ St. Gallen ก็อุ่นใจว่าเข้าเขต สวิตเซอร์แลนด์แล้ว #ลัดเลาะรอนแรม #เรือนบางระมาด
อ่านเพิ่มเติมที่ www.ruenbangramat.com
Comentarios