top of page

เวลา (๔)


ในสังคมสมัยใหฒ่ การลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันนับว่าเป็นเรื่องดี เพราะถือเป็นการมองเห็นคุณค่า “ความเป็นคน” สูง ตำ่ ดำ ขาว รวย จน สมัยนี้มาถือเป็นข้อรังเกียจกันไม่ได้ ด้วย รวย จน มันก็เป็นเรื่องของแต่ละคน เอาเข้าจริง คนจน นั้นแทบจะไม่มีโอกาสได้เบียดเบียน คนรวย เสียด้วยซ้ำไป กลับเป็นฐานอันมั่นคงให้แก่สังคมที่เจริญรุ่งเรือง


จะว่าไป โลกนี้ก็เป็น “ธรรม” มาแต่แรก “ธรรม” อันหมายถึง แก่นแท้ ของสรรพสิ่ง คือ การเริ่มต้น และ การสิ้นสุด คนแต่ละคน มีเวลาในชีวิตไม่เท่ากัน แต่ เริ่ม และ สิ้นสุด เหมือนกัน “เวลา” เป็น “ทรัพย์” ที่เรามีเหมือนกัน ไม่มีใคร มีมากกว่าใครได้ สำคัญคือ สิ่งใดๆ ที่หามาในชีวิต สุดท้าย เมื่อ “เวลา” สิ้นสุด ก็เอาไปไม่ได้ โดยส่วนตัว เห็นว่า “เวลา” เหมือน “วงกลม” มองย้อนกลับมาดูตัว แม่ มักพูด “ลูก ๔ คน ไม่รู้เลี้ยงมาได้อย่างไร” ข้อนี้เห็นจะจริง สมัยนี้ ลูกคนเดียว ก็แทบจะกระอัก ชักหน้าไม่ถึงหลัง ค่าใช้จ่ายจิปาถะ เมื่อเด็ก พ่อแม่ คอยหาข้าวปลาให้กิน เท่าที่จำได้ “ไม่เคยอดแม้มื้อเดียว” ชั่วแต่ว่า “ไม่ได้กินอะไรที่เกินตัว” พ่อแม่ก็ทำงาน มือเป็นระวิง ไม่เคยได้มีเวลาป่วย ซึมเศร้า อะไรทั้งนั้น เราเติบโตขึ้น เรี่ยวแรงมากขึ้น วิ่งไปตามฝัน คล้ายกับที่พ่อแม่ไม่เคยอ่อนแรง ต้องหาเงินทองมาเลี้ยงปากท้อง เมื่อเข้าทำงาน เราก็ผ่าน ปัญหา ความท้าทาย ที่พ่อแม่เคยเจอมา เรามองว่าหนักหน่วง ส่วนเขามองว่า “ปกติ” เวลาผ่านไป พ่อแม่เริ่มอ่อนแรง ไม่กระฉับกระเฉงว่องไว คงไม่ต่างจากตอนที่เราเริ่มหัดเดิน เตาะแตะ ล้มบ้าง ลุกบ้าง คราวนี้ พ่อแม่กลับคล้ายเด็กอีกครั้ง ลูกมีหน้าที่ดูแล หาข้าวปลา ให้กิน ดูแลร่างกาย ถนอมให้อยู่ไปได้ตราบนาน เหมือนที่ พ่อแม่ถนอมให้เราอยู่ไปได้ตราบนานเช่นกัน


วันผันผ่านไป พ่อ หยุดเดิน ล้มตัวลงนอน อ่อนแรงและจากไป ชีวิตเขา “สิ้นสุด” สวยงาม ความเสียใจย่อมเป็นเรื่องปกติ ยอมรับได้ เราควรภูมิใจที่ทำหน้าที่ได้ดี อย่างที่เขาเคยทำให้เรา แม่ ยังอยู่ให้เราดูแล เหมือนที่เขาดูแลเราตอนเล็กไม่เดียงสา ชีวิตมันวนไป แบบนี้ ให้เราได้มองเห็น “ธรรม” และ “ความงามอ่อนหวาน” ของใจคน #เบี้ยบ้ายรายทาง #เรือนบางระมาด


อ่านเพิ่มเติมที่ www.ruenbangramat.com


11 views0 comments

Comentários


bottom of page