top of page

เวลา (๕)



สิ่งหนึ่งซึ่ง กลาย หาย ไปพร้อมกับเวลา คือ “กับข้าว” เรียก “กับข้าว” เพราะต้องกินกับข้าวจริงๆ ย้อนกลับไปสัก ๔๐ ปีขึ้น ของกินไม่ได้มีให้เลือกมากมายเหมือนยุคสมัยนี้ ทุกบ้านต้องลงครัวกันเอง ร้านข้าวแกงมักเป็นที่พึ่งของคนทำงาน เช้ามา ก็แวะไปกิน กินเสร็จก็ไปทำงาน กลางวันลงมากินใหม่ เย็นไปตลาดโต้รุ่ง หากไม่กลับมากินที่บ้าน กับข้าวสมัยก่อนจะออกรสของสดที่เอามาปรุง แกงต่างๆ หอมเครื่องแกง ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง ผิวมะกรูด พริกแห้งมีรสชาติในตัวเอง โขลกเคล้ากัน ก็ออกรส หากเป็นแกงกะทิ ต้องคั้นมะพร้าวขูดกับน้ำอุ่นเอา ”หัว” ออกมาก่อน รอบ ๒ จางลงก็ได้ “หาง” เก็บไว้เติม ต้มต่อ หลังผัดเครื่องแกงเสร็จ น้ำปลาต้องใส่ตอนเดือดไม่ให้คาว แกงเหลือง แกงส้ม ไม่ใส่กะทิ โขลกเนื้อปลาเข้ากับพริกแกง กินตอนเข้าหน้าฝน กันไข้หัวลม ขับเหงื่อพิษไข้ดีนัก หากเป็นแกงเหลืองทางใต้ ยิ่งจัดจ้าน เอาเข้าจริง “แกง” แค่ดูก็รู้ว่าอร่อยหรือไม่ กินดูก็ยิ่งรู้ ว่าใครทำกับข้าวเป็นหรือไม่เป็น แถวบ้านแม่ค้านางหนึ่งเป็นคนภาคกลาง แต่งไปเป็นสะใภ้เมืองถลาง ย้ายไปอยู่ทางใต้อยู่นาน ที่สุดกลับมาพระนครทำมาหากิน กับข้าวทุกอย่างที่นางทำ “ดู” ก็รู้ว่ามี “ฝีมือ” ชวนนางคุยทุกครั้งที่แวะ “ปลา พี่ใช้ปลาน้ำดอกไม้ ซาวเกลือแล้ว ต้องลวกสักน้ำหนึ่ง ให้หมดคาวจริง แกงแล้วกินอร่อย” คนสมัยก่อนจะมีกลเม็ดของตัว ของบ้านตัว ในการปรุง น่าเสียดายที่เสนห์ปลายจวักอย่างโบราณสูญหายไปมาก “กะเพรา” กินร้านไหนก็เหมือนกันเสียสิ้น กลิ่นน้ำมันหอยเจืออยู่มาก จะกลบกลิ่นสมุนไพร เค็มจัด ต้องคลุกข้าวสักกาละมัง ส่วนตัว หากทำกับข้าวเอง จะเลี่ยงน้ำมันหอย ปรุงด้วยน้ำตาลมะพร้าว หัวน้ำปลา ดอกเกลือ ก็จะได้ความเค็มหวานออกนวล กับข้าวกับปลาที่ปรุงแต่งเกินพอดี กินแล้วอร่อยปลายลิ้น แต่ก่อโรคมากมาย ยิ่งอายุมาก อาหารการกินยิ่งต้องระวัง #เบี้ยบ้ายรายทาง #เรือนบางระมาด


อ่านเพิ่มเติมที่ www.ruenbangramat.com



25 views0 comments

コメント


bottom of page