top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย ๑๔ : สวรรควรนายก (2)



“เครื่องถ้วยชามเยอะจังคะ ที่นี่”


“ใช่ครับ ศรีสัชนาลัยเป็นแหล่งผลิตสังคโลกเก่าแก่มากเป็นความภูมิใจของคนที่นี่ นักโบราณคดีเคยมาสำรวจพิสูจน์ อายุเตาเผาสังคโลก ผลคือ ที่เกาะน้อยน้อยเก่าแก่ที่สุด อยู่ไมไกลจากที่นี่ ...​


ตอนนี้ ผมกำลังจำลองเตาเผาแบบดั้งเดิมอยู่ อยากรู้ว่าคนสมัยก่อนควบคุมความร้อน สีที่ได้ กันยังไง”


พลันจันนวลเหลือบไปเห็นพระพุทธรูปนั่ง “ดูคล้ายที่วัดพระบรมธาตุเชลียงเลยนะคะ แต่ย่อส่วนลงมา”


ตาดีจังเลยครับ พระพุทธรูปองค์นี้ ถือว่างามมาก เป็นต้นเค้าแห่งศิลปะสุโขทัย คุณนวล ดูที่ฐานสิครับ มีอักขระกำกับอยู่ นักอ่านจารึกโบราณบอกว่า พระสนมองค์หนึ่งของพญาลิไทเป็นผู้สร้างถวาย”


“สวรรคโลกมีความเป็นตัวเองสูงมากนะคะ มีวัดพระบรมธาตุ มีพิพิธภัณฑ์ มีหลักเมือง มีสถานีรถไฟ ศิลปะวัตถุต่างๆ ก็มีเอกลักษณ์ของตนเอง”


“คุณนวลมองออก ?”


“สิคะ ตอนมาถึงวันแรก ไปตลาดกับแม่ลำพา ยังคุยกันอยู่เลยว่าเมืองนี้มีธนาคารเยอะ ตึกเรือนแถวแบบจีน ก็มาก”


“คุณนวลมาตรงนี้ดีกว่าครับ ผมจะพาไปดูอะไร” กรันยื่นมาให้จันนวล จันนวลเอื้อมรับ ให้ชายหนุ่มได้กุม กรันไม่ใช่คนอันตราย หรือมีเล่ห์กล แต่ตรงไปตรงมา หากเข้ากล้าจะยื่นมือมาให้เธอได้เกี่ยวกุม เธอก็กล้าพอที่จะยึดชายคนนี้เป็นหลักใจ


กรันยิ้ม ณ ตอนนี้ไม่มีความเขินอายใดๆ แววตาอันอบอุ่นทอดไปที่หญิงที่ตนหลงรัก กรันชวนให้ดูโครงสร้างศาลาการเปรียญที่เขาออกแบบเพื่อเฉลิมฉลองวัดสวรรคารามในปีหน้า


“คุณนวลจำวิหารที่วัดราชบูรณะที่พิษณุโลกได้ไหมครับ ศาลาการเปรียญหลังนี้ ผมตั้งใจถ่ายทอด ความเรียบง่ายตามแบบฉบับสุโขทัยไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานดู ผมใช้วิธีการเข้าไม้ทั้งหมด ไม่ใช้ตะปูกับเครื่องบนเลย เพียงแต่เสริมฐานแบบสมัยใหม่ และลงเสาเข็มให้แข็งแรงไม่โคลง ผมเชื่อว่าสมัยก่อนวิหารแบบ สุโขทัยไม่มีการก่อผนัง เพราะหลังคาลาดเอียงมาก บางแห่งเกือบถึงพื้นก็มี เพราะฉะนั้น ต้องเปิดด้านข้างโล่งให้มีแสง และลมผ่าน”


“Less is more!” จันนวลเอ่ย


“ครับ อันที่จริง มีอีกแห่งที่ผมอยากให้คุณนวลเห็น”


“ที่ไหนคะ”


“วัดบรมธาตุทุ่งยั้ง อุตรดิตถ์ครับ พระวิหารเรียบง่ายแบบสุโขทัยเลย”


“อยากไปนะคะ แต่ช่วงนี้ ขอเร่งทำโครงร่างรายงานคณะกรรมการ UNESCO ก่อน โดนทวงงานหลายรอบแล้ว อีกไม่กี่วันคงต้องกลับไปกรุงเทพ หาข้อมูลเพิ่มเติม”


กรันนิ่งไป ... “นานไหมครับ”


“คงสักอาทิตย์หนึ่งคะ ที่นี่ยังมีอะไรให้เล่นสนุกๆ อีกเยอะค่ะ เออ กรันคะ นึกได้ละ ที่โรงหีบอ้อยที่บ้าน มีเครื่องหีบอ้อยเป็นไม้ คงไม่ได้ใช้นานมากจริงๆ เมื่อเช้าให้พี่มั่นเลื่อนออกมา มันฝืด เนื้อไม้แตก ไม่รู้จะพอซ่อมได้ไหม หากพอมีเวลา อยากรบกวนช่วยดูให้หน่อยคะ อยากศึกษาการอยู่กินของคนสมัยก่อน”


ขณะเดียวกัน ท่านเจ้าอาวาสวัดกลาง อย่างที่เรียกกันคุ้นปากกว่า วัดสวรรคารามเดินมาชม โครงสร้างศาลาการเปรียญ กรันจึงแนะนำจันนวลให้รู้จัก แม้จะอยู่ต่างประเทศนาน แต่จันนวลก็รู้ธรรมเนียมไทย ลงกราบที่พื้น


“ลูกหลานบ้านเจ้าคุณใหญ่หรือนี่ ไม่เคยได้พบกันเลย ท่านเจ้าคุณใหญ่นี่ เติบโตมากับวัดกลางนี่ทีเดียวนะ คนแถวนี้ รู้จักท่านกันดี เล่าต่อๆ กันมา”


ท่านเจ้าอาวาสเชื้อเชิญทั้งกรันและจันนวลไปที่ตึกใหญ่ ท่านจะเลี้ยงชาจีน จันนวลตื่นเต้นที่ได้เห็นตึกฝรั่งสวยงาม ซ่อนตัวอยู่แมกไม้ริมน้ำยม


“ตึกฝรั่ง สร้างพร้อมๆ กับเรือนใหญ่ท่านเจ้าคุณนั่นล่ะ โยมพ่ออาตมาเล่าให้ฟัง ท่านเจ้าคุณใหญ่รับราชการทหารประจำมณฑลพิษณุโลก ท่านเอาการเอางาน ทำราชการ โดยเฉพาะเรื่องรถไฟสายเหนือนี่ รวมทั้งที่แยกมาสวรรคโลกนี่ ท่านคุมทั้งหมด”


จันนวลแกล้งทำไม่รู้เรื่องใดๆ กลับเป็นว่า กรัน ตื่นเต้น เบิกตา ประหลาดใจ


“หนูไม่ค่อยได้ทราบอะไรมากค่ะ เพราะไปโตที่กรุงเทพ คุณพ่อเล่าแค่ว่าคุณปู่เป็นทหารบก รับราชการกรมวิทยุโทรเลข แต่อายุสั้น เสียไปตั้งแต่คุณพ่อยังเด็กๆ”


“โยมอาขวัญ นี่ อาตมาเองก็คุ้นเคย ท่านก็อุปถัมภ์คำ้จุนวัดกลางเรานี่มาตลอด หากจำไม่ผิดรับราชการอยู่มณฑลทหารบกที่พิษณุโลกด้วยใช่ไหม”


จันนวลรับคำ “เจ้าค่ะ”


“บ้านนี่ สืบตระกูลทหารอยู่ที่พิษณุโลกกันมา 3 ชั่วคนแล้ว”


จันนวลยิ้มรับ แกล้งว่ารู้เป็นครั้งแรกเหมือนกับ กรัน ที่ดีใจ ได้รู้จัก ที่มาที่ไปครอบครัว จันนวล มากขึ้น


กรันรับคำว่าจะไปดูเครื่องหีบอ้อยให้ที่บ้านอาทิตย์หน้า แต่ขอให้จันนวลสัญญาว่าจะกลับมาเมื่อครบอาทิตย์


พร้อมเดินไปส่งจันนวลที่รถ นายมั่นยืนคอยท่าอยู่


คำ่ลง จันนวลนั่งนึกย้อนเรื่องราวในวันนี้ ช่างมากมายเหลือเกิน ทั้งได้รู้ว่าต้นตระกูลของเธอผูกพันกับเมืองนี้มากเพียงใด พลางเปิดบันทึกท่านเจ้าคุณ


…​


วันนี้ได้ขึ้นภนมเพลิงไปดูค่าย กับข้าวกับปลา ว่าพอหรือไม่ ฉันวานให้แม่พรรณเปนธุระจัดหาเสบียงกรังไว้ ไม่รู้ว่าจะเสรจเรื่องเมื่อไร เหนว่าดึกโขแล้ว จึงค้างกับพวกบนภนมเพลิงนั่น ย่ำรุ่ง จึ่งได้เหนสิ่งวิเศษอย่างที่สุด ยอดพระเจดีย์วัดเจดแถวงามเสียจริง แม้จะมีรากไม้ปกคลุม แต่ยอดเจดีย์ดอกบัวคือ ศุโขไท แท้ ศรีสัชชนาไลย อันรุ่งเรืองมาเก่าก่อน มองไล่ขึ้นมา เหนยอดพระเจดีย์ระฆังวัดช้างล้อม ในเงาไม้ แสงตาวันเรื่อขึ้นเรื่อย ฉันมองไม่วางตา สวรรคโลกบ้านเรานี่ เมืองสวรรคโดยแท้ เปนแว่นแคว้นศรีสัชชนาไลยมาแต่เดิม ไม่เคยนึกว่าตัวเปนคนบ้านนอกเลย ฉันรักแผ่นดินที่นี้สุดหัวใจ แสงตาวันยิ่งเรื่อ ยิ่งจะเหนยอดเจดีย์น้อยใหญ่ สลับกับยอดไม้ นี่ยังคิดว่าอยากรวมพวกกันเข้าไปถางหญ้าถางพงให้เดินได้สดวก เหนจะมีก็แต่ทางขึ้นภนมเพลิงนี่ถางกันอยู่ทุกปี ปลายปี้นี้คงได้ขึ้นมาบูชาไฟ สวดมนต์กันอีก


ทางเมือง พิชัย แจ้งว่าทัพใหญ่จากพระนครกำลังขึ้นมา ท่านเจ้าคุณ เจิม นำทัพมาเอง จะอย่างไรก็คงต้องว่ากันให้เดดขาด ปล่อยไว้ไม่ได้ ชาวบ้านอกสั่นขวัญหาย ไม่เปนอันทำกิน วันนี้ให้คนท่าชัยไปสอดแนมในป่า เสาะว่ามีชาวสยามหนีมาตามป่าเขา แถบเมืองด้งฤาไม่ จักได้ช่วยเหลือ ในป่าอันตรายมากมี คนพระนครจะรู้ทางรอดได้อย่างไร


14 views0 comments

Comentarios


bottom of page