top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย ๔ : The World Heritage Revisited (2)



“บ้านเราพอมีดอกไม้ ธูปเทียนไหมคะ น้ามั่น” จันนวลถามขึ้น


“ครับ น่าจะมีนะครับ แม่ลำพา แกก็สวดมนต์ไหว้พระอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวผมจัดการให้นะครับ คุณหนูจะใช้เมื่อไรครับ”


“ค่ำนี้ อยากขึ้นมาไหว้พระสวดมนต์ อุทิศให้ พ่อแม่ คุณปู่คุณย่า คุณทวด ค่ะ คงไม่มีใครใช้หอพระนี้นานแล้ว”


ที่เรือนเล็กจันนวลตระเตรียมของใช้ เตรียมเดินทางกลับเมืองหลวงอมรในวันรุ่งขึ้น



“เดี๋ยวหนูกลับมาใหม่ค่ะ แม่ลำพา อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิคะ แล้วนี้ พอจะมีดอกไม้ให้หนูได้ไหว้พระ กราบคุณทวด คุณปู่ไหมคะ” จันนวลเสถามเรื่องอื่น


“ค่ะ ป้าหาไว้แล้ว มีกล้วยไม้ป่า ริมรั้วบ้านคุณกรันค่ะ ดอกเล็กดอกน้อย นั่นเก็บเอาริมน้ำยม มัดรวมกันดูสวยดี หากรู้เร็วกว่านี้ ป้าจะไปซื้อดอกบัวที่ตลาด” แม่ลำพาว่า


“ไม่เป็นไรค่ะ เรียบๆ ง่ายๆ ก็พอ คุณกรันของป้านี่มีทุกอย่างเลยนะ” จันนวลเย้า


“ค่ะ แกชอบต้นไม้ ไม้ ดินเผา ปั้นอะไรๆ ก็ออกมาสวยไปหมด ฝีมือแกดี แกว่า ดินสวรรคโลกบ้านเรานี่ดีมาก เผาแล้วไม่แตก ป้าก็จำๆ แกมาก เห็นถ้วยชามสังคโลก ใช้มาตั้งแต่เล็ก ไม่ตื่นเต้นอะไร”

ค่ำลง ไอชื้นน้ำยมช่วยให้อากาศไม่ร้อน ลมพัดเรื่อยพอสบายตัว ‘อากาศแบบนี้ หาซื้อที่ไหนไม่ได้’ กลิ่นโคโลญจน์หอมอ่อน ช่วยให้จันนวลสดชืน พลางคิด ‘สัปดาห์หนึ่งแล้ว เราก็อยู่ที่นี่ได้’ เอนหลังลงหมอนอิง พลางเปิดบันทึก หมึกสีซีดจาง



ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๙ ๒๔๔๓


นับแต่กลับมาจากเยอรมนี นับว่ายังไม่ได้ทำอะไรเปนชิ้นเปนอัน เมาเรือเสียเหลือเกิน หากให้ไปอีก คงจะไม่เอาเสียแล้ว คิดถึงบ้านเตมกำลัง แลได้คิดนึกว่าจะต้องบันทึกเอาไว้ให้คนชั่วลูกชั่วหลานสยาม เหนพระมหากรุณาธิคุณ แห่งพระเจ้าแผ่นดิน สยามินทร์ แลทั้งพระบรมวงษานุวงศ ที่ได้เมตตาชุบเลี้ยง ไอ้สรวง คนสวรรคโลก ให้ได้ดิบได้ดี เป็นตัวตนขึ้นมา ไม่นึกฝันมาก่อนว่าจักได้มีวาศนา ไปเล่าเรียนถึงเมืองฝรั่ง ปรัสเซีย เยอรมนี นี่ด้วยบารมีพระเจ้าแผ่นดิน แลสมเด็จกรมหมื่นดำรงฯ โดยแท้เทียว


พูดถึงบ้านเกิด สวรรคโลก ฉันไม่อายใครเลยจริงๆ ว่าเกิดอยู่ที่นี่ พ่อฉันเล่าเสมอว่า สาแหรกข้างพ่อนั้นเปนนักรบเก่งกล้านับแต่สมัยอยุธยามา หรือ เก่าไปกว่านั้น เราก็มีธรรมเนียมของเราต่างๆ ข้างแม่ก็สวรรคโลกแท้ มีไร่นา ไม่เคยต้องอดหยาก


ทุกปี พอเกบเกี่ยวเสร็จ พ่อมักฝากให้ไปรับใช้พระเณรที่วัดกลาง ประสาเดก ก็หนีไปเล่นซนบ้าง ปีนตลิ่งน้ำยมบ้าง ทั้งสูงทั้งชัน อ้อ คงเปนเพราะนี่สินะ ฉันจึงแขนขายาวกว่าเด็กรุ่นๆ กัน เพื่อนฉัน พี่ทองคำ บวชเรียนแต่เลกที่วัดกลาง ฉันคอยรับใช้ ตามออกบิณฑบาต ปัดกวาด เสนาสนะ น้ำร้อน น้ำชา พระ ฉันดูแลไม่ขาด แลเมื่อพี่ทองคำ ได้ไปพระนคร ขอให้ฉันตามไปด้วย พ่อแม่เหนว่าเป็นลู่ทางจักได้เรียนหนังสือ จึ่งให้ฉันตามไปรับใช้ พระทองคำ พระเดชพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ท่านแพ วัดสุทัศน เมตตาเหลือเกิน ให้ฉันได้เรียน หนังสือร่วมไปกับ พระ หนังสือไทย หนังสือบาลี ก็เมตตาสอนให้


การมาอยู่ที่พระนครนี่ คิดถึงบ้านเสียเหลือเกิน ทั้งหลวงพี่ทองคำแลฉัน มักจะเดินไปที่วิหารหลวง กราบพระศรีศากยมุนี กันเนืองๆ ยามศุข ยากทุกข์ เรา ๒ คน ก็มานั่งก็ที่ท้ายพระวิหารนี่ พระศรีศากยมุนีองค์นี้ งามนัก องค์ใหญ่สัก ๓ วาได้กระมัง เล่ากันว่าชลอมาจากวิหารหลวง วัดมหาธาตุศุโขไทนั่น มากราบ ก็อุ่นใจ ว่าไม่ไกลจากบ้านเรา ศุโขไท สวรรคโลก ก็เดียวกัน


วันหนึ่ง พระวรพุฒิโภคัย เจ้ากรมในกรทรวงมหาดไท ในสมเดจกรมหมื่นดำรงฯ เสนาบดี ได้มาที่วัด คุณพระเป็นคนสวรรคโลกเหมือนตัวฉัน ได้มากราบและอยู่สนทนาธรรมกับสมเดจเจ้าประคุณ แพ สมเดจท่านจึ่งแนะนำฝากตัวไวกับคุณพระท่าน ด้วยเหนว่าเป็นคนสวรรคโลกเหมือนกัน คุณพระท่านเหนว่าฉันหยิบจับ เรียงหนังสือ ใบลาน ทรงรับสั่ง “รู้หนังสือฤา เรา ไอ้หนุ่ม” ฉันตกใจ ด้วยไม่รู้ธรรมเนียม เข้าผู้ใหญ่ จึ่งได้แต่พยักน่า รับไปเท่านั้น สมเดจเจ้าประคุณ กริ้วว่า ฉันทำท่านขายหน้า ผู้หลักผู้ใหญ่ถามกลับพยักหน้า จะลงไม้เรียวฉันเสียตรงนั้น คุณพระฯ ท่านห้าม แลถามว่า อยากรับราชการงานเมืองไหม เพราะหาตัวคนรู้หนังสือน้อยเต็มที ฉันหมอบลงกราบ แลกล่าวว่าอยากฝึกทหาร รับใช้บ้านเมือง ท่านหัวร่อชอบใจ แลว่าจะฝากฝังให้


เมื่อแรกฝึกทหาร เจ้านายผู้ใหญ่ท่านมักจะสอนกันเสียเอง แม่ไม้มวยต้องได้ ต่อมาจึ่งมีครูทหารฝรั่งเข้ามาฝึกเป็นรบบรเบียบ เมื่ออยู่วัด สมเดจท่านมักเรียกให้ซ่อมแซมนั่นนี่ นี่กระมัง ฉันจึ่งอยากเรียนการช่าง เป็นทหารช่าง



23 views0 comments

Kommentare


bottom of page