top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย ๖ : หนุ่มสวรรคโลก (๒)



‘จันทร์กระจ่างตา เป็นแบบนี้เอง’ ค่ำมากแล้ว หนุ่มใหญ่เชื้อสายสกุลช่างไม้เอก กรัน ยังคงขมักเขม้นจดจ่อ หน้าเตาเผาที่สร้างเลียนแบบของเก่า นอกจากงานไม้แล้ว กรันหลงใหลความงามของเครื่องสังคโลก ลองผิดลองถูก เลียนแบบ สร้างเตาเผาสังคโลกอย่างโบราณ


‘เตาที่เกาะน้อยนี่เก่าแก่กว่าที่ไหนๆ เลยนะ ไอ้กรัน เตาแต่ละเตาใช้เผาถ้วยชาม หม้อไห ต่างกันไป ดินศรีสัชนาลัยบ้านเรา ปั้นอะไรก็งาม เผาแล้วไม่แตกง่าย’ เสียงตาช้างสหายเก่าแก่ของพ่อ ผู้คร่ำหวอดในงานสังคโลกจนหมดลม ยังสะท้อนในหัวกรันเสมอมา ‘เอาน่า วันนี้ไม่สำเร็จ วันหน้ายังมี’ กรันยังคงสนใจเตาปทุนที่ต้อง มุดเข้าไปเรียงถ้วยชามก่อนเผาด้วยความร้อนสูง ศาลาการเปรียญหลังใหม่ กรัน ตั้งใจ ใช้วัสดุทุกอย่างในสวรรคโลก ศรีสัชนาลัยเท่านั้นชุดบัวหัวเสา ตั้งใจใช้ สังคโลก ประกอบซ้อนเข้ากับไม้สัก


บนโต๊ะทำงาน จดหมายเชิญเข้าร่วมประชุมความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมและ UNESCO ยังวางนิ่ง ‘รำคาญ นี่คงหาทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอีก เอาคนเข้ามา เอาเงินเข้ามา แล้วทิ้งขยะไว้’


“อย่าขวางนักเลย พ่อสถาปนิกมือเอก กูกราบล่ะ มาหน่อยเถอะ บรรดาสถาปนิกงานไทย ที่รู้เรื่อง เมืองเหนือ UPPER SIAM ดีที่สุดก็มึงนั่นล่ะ เอาสมอง เอางานที่มึงได้รางวัลจาก Florence มาอวดชาวโลกเขาหน่อย” นัยน์ เพื่อนสนิท ร่วมสถาบันทั้งเรียนและทำงาน ส่งเสียงตามสาย มาขอร้องแกมบังคับ เมื่อ 2-3 วันก่อน


“กูขอคิดดูก่อน ห่วงลูก หากเข้ากรุงเทพ ก็ต้องเอาลูกไปด้วย จริงๆ ก็ดีเหมือนกัน ตายายเขาก็อยากเจอหลาน” กรันประวิงคำตอบ


ลมชื้นพัดเรื่อย น้ำแม่ยมขึ้นสูงเมื่อเข้าหน้าฝน ไอชื้นเย็นจับพื้นไม้ชานหน้าห้อง กรัน มักออกมายืนรับลม พร้อมชาจีนอย่างดี ยอดพระธาตุงามราวจับวางเมื่อต้องแสงจันทร์ ดูสอาดอ่อนหวาน พลางมองไปยังเรือน พระยาสวรรครักษราชโยธิน ภาพหญิงสูงโปร่ง มั่นใจสูง สง่า อย่างสูงศักดิ


‘หรือเราจะตาฝาดไปเอง’ กรันนึกพลาง เมื่อแรกเห็นจันนวล ลงจากรถ เข้ายังเรือนท่านพระยาฯ แต่กลับเห็นภาพซ้อน หญิงสูงศักดินางหนึ่ง นั่งบนหลังช้าง ผมเกล้ามวยต่ำระต้นคอ ประดับเครื่องทองงาม พร้อมข้าทาส


‘แวบเดียวเท่านั้น แวบเดียวจริงๆ’


แต่เด็กมา กรันมักเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น และน้อยคนนัก จะรู้ว่า กรัน มีญาณรับพิเศษ ตรงนี้ หลายครั้งเมื่อกรันลงมือร่างแบบ ซึ่งหาหลักฐานประวัติศาสตรไม่ได้ กรัน มักจะรฤกถึง ครูบาอาจารย์ ‘พระร่วงจ้าว’ ขอปัญญาแก่ลูกด้วยเถิด


ไม่ช้านาน กรัน ก็จะร่างแบบออกมาได้อย่างงามวิเศษ รวมทั้ง งานออกแบบ ประติมากรรม ‘ปทุมาสัชชนาไลย’ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเมือง Florence มาแล้ว


‘ผ้านุ่งอย่างอย่างขอมโบราณยาวกรมเท้า ระพื้น คงไม่ใช้ชาวบ้านธรรมดา’


‘จันนวลคือใคร’


นานๆ ครั้งจะได้ยินเสียงฝีพายวาดน้ำกว้างๆสักครั้ง นำ้ขึ้นแบบนี้ คงมีพวกงมกุ้งอยู่ตามรายคลองไป ‘ผ่านมากี่ปี คลองชักพระไม่เคยเปลี่ยน’


เมื่อยังเด็ก จันนวลมักวิ่งมาดูคนงมกุ้งตอนค่ำๆ แน่นอน กุ้งแม่น้ำตัวโตจะกลายเป็นกับข้าวในวันต่อมา


พลางอ่านบันทึกต่อ


แรม ๒ ค่ำ เดือน ๒ รศ. ๑๒๐

ที่ตำหนักสมเดจเจ้าประคุณนี่ ฉันได้พบแม่พรรณ เปนครั้งแรก แม่พรรณ ไม่เหมือนหญิงอื่น ตรงที่ กล้าพูดกล้ายิ้ม กับคนโดยทั่ว หล่อนเปนเพื่อนกับลูกพระน้ำพระยา พ่อของแม่พรรณนี่เปนชาวสวน มีอันจะกินอยู่ทางบางกอกน้อย อีกฟากของแม่น้ำ ท่านเจ้าคุณผู้ใหญ่ท่านเอ็นดู เอาตัวมาเลี้ยงเป็นเพื่อนคุณหนู ลูกสาวท่าน ดูมีสง่าราศรี ไว้ตัว แม่พรรณพลอยได้เรียนโรงเรียนแหม่มโคลไปด้วย ทั้งยังไปสมาคมกับกลุ่มเมียฝรั่ง ชวนกันอ่านหนังสือ เรียนภาษา แม่พรรณจึงต่างจากหญิงอื่น งานบ้านงานเรือนก็ดี หนังสือหนังหาก็รู้ เสาะรู้เปนที่หนึ่ง ใครได้คุยด้วยก็จะเอนดู แต่ฉันก็เจียมตัวเสมอว่าเปนคนหัวเมืองบ้านป่า จนไปฝึกทหารนี่ จึ่งห่างกันไป เมื่อต้องไปเมืองฝรั่ง ก็ทำใจแล้วว่าคงไม่มีวาสนาได้พบกันอีก ต่อกลับถึงพระนคร ฉันนี้ใจเต้นได้พบ แม่พรรณ อีก จึ่งได้พูดคุยกันมากขึ้น วันหนึ่ง สมเดจเจ้าประคุณเรียกฉันไปพบ ถามว่าชอบพอแม่พรรณฤา ฉันไม่กล้าแม้จะคิด แต่ท่านไม่ว่ากระไร เหนว่า ฉันโตพอจะมีเหย้าเรือนได้แล้ว รับราชการมั่นคง ก็สมควรมีเหย้าเรือน ท่านจะทาบทามให้ ท่านเสนาบดีเปนผู้ใหญ่ให้



ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ รศ. ๑๒๐


กลับมาได้สักพักท่านเสนาบดีเรียกตัวฉันไปว่า จะให้ประจำการที่ มณฑลพิษณุโลกย ด้วยเหตุหัวเมืองเหนือไม่น่าวางใจนัก คนงานในบังคับอังกฤษมักระหองระแหงกับชาวสยามอยู่เสมอ ข้ามเขาขึ้นไปทางหัวเมือง พายัพนั่น พวกป่าไม้มีเรื่องกันมิได้ขาด แลหลวงท่านเตรียมจะสร้างทางรถไฟแน่แล้ว สายเหนือนี่ดูจะเร่งกันมาก ด้วยเกรงอำนาจอังกฤษบริเตน เหนท่าจะเอาเชียงไหม่เสียให้ได้ เมืองระแหงไปทางแม่สอดนี่ ก็วางใจไม่ได้นัก ด้วยใกล้มะละแหม่งเสียเหลือเกิน ได้ยินผู้ใหญ่คุยกันว่า บริเตนหยากขอสร้างทางรถไฟเอง จากเมืองมะละแหม่ง ผ่านเมืองระแหง พาดสวรรคโลก พิชัย ออกไปทางเมืองลาว เส้นทางนี้ จะเข้าถึงยูนนาน สิบสองปันนา โดยง่าย ดูท่า ฝรั่งเศสจะไม่เอาแน่นอน ไหนว่า ตกลงให้เราเป็น กันชน แต่พอเผลอไผล ก็จะล่วงเข้ามาแผ่นดินเรา เสมอ ฉันจึ่งเข้าสังกัดมณฑลพิษณุโลกย ขึ้นล่องพระนครไม่ได้ขาด ที่จริงก็ดีใจอยู่เพราะ ใกล้บ้าน จากเมืองพิชัย นั่งเกวียน ขี่ม้าก็ถึงสวรรคโลกแล้ว



ดึกโขแล้ว จันนวลเริ่มง่วงงุน ยายอ่อนเอามุ้งลงให้แต่หัวคำ่แล้วจึงลาไปนอน

จันนวลหลับตาลง พลันภาพ พระฤาษี ที่เรือนคุณทวดก็ปรากฏขึ้น ท่านแลดูใจดี จันนวลหลับไป


20 views0 comments

Comments


bottom of page