top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย ๑๗ : สืบค้น สืบคว้า อำนาจฝรั่งคุกคาม (2)


นึกออกแล้วนวล จริงๆ ตัวเมือง โคราชเก่า มันอยู่อีกที่นะ ค่อนมาทางตะวันตก แถวๆ อ. สูงเนิน เป็นไปได้นะนวล แถวนั้น มีปราสาทหินอยู่ด้วย เอ ปราสาทอะไรนะ เมืองแขก แล้วก็ เมืองเก่า อะไรสักอย่าง... นวลมาดูแผนที่นี่ จาก แถวสูงเนินนี่ ถ้าข้ามดงพญาไฟไป ผ่าน สระบุรี ก็เข้าลพบุรี แต่ถ้าหักขึ้นบน ไปตามแม่น้ำป่าสัก ก็เข้าเพชรบูรณ์ ตรงนี้ มีเมืองโบราณเก่าแก่ตั้งแต่ สมัย ทวารวดี ชื่อ ศรีเทพ ต่อมาก็รับวัฒนธรรมเขมรด้วย ขึ้นไปตามแม่น้ำป่าสัก ออกซ้าย เข้าพิจิตรได้ ไปตามลำน้ำน่าน เชื่อมน้ำยมแถวบางระกำ ก็ถึงสุโขทัย ศรีสัชนาลัยได้ นะ นวล”


การพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นยิ่งลึกยิ่งล้ำ


“ถึงจะดูไกล แต่พ่อขุนผาเมืองท่านคงมีกำลังอยู่พอตัว เพราะ เมืองราดน่าจะเป็นเมืองใหญ่ มีกำลังเขมรช่วย ระดมคนไม่น่ายากนะ นัยน์”


จันนวลพาดร. นัยน์ มาชมเรือนริมน้ำ ที่อยู่กับมาไม่ต่ำกว่า 3 - 4 ชั่วอายุ พร้อมแนะนำให้ นัยน์รู้จัก ยายอ่อน นายศุข คนในเรือนที่อยู่กันมา ได้พึ่งพาพระศรีศุลกรักษ คุณตาของแม่หอมจันทน์ ทั้งคุณหญิงวาด คุณหญิงพรรณ ต่างก็เป็นคนในย่านบางระมาดนี้กันหมด เพราะการออกเหย้าออกเรือนสมัยก่อน ก็มักจะใช้แม่สื่อแม่ชัก แนะนำกันไปเป็นทอดๆ ยายอ่อนเคยบอกว่าที่ทางของคุณหญิงวาดอยู่ลึกเข้าไป แถบวัดสมรโกฏิ แถวนั้นผีดุ ส่วนคุณหญิงพรรณ อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นคลองซอย เรียกคลองวัดไชยทิศ


แสงโคมโบราณที่ปากคลองตลิ่งชันสะท้อนเข้าห้องนอน จันนวลยังคงร่างแผนที่ตามความเข้าใจ เพื่อให้เห็นถึงเครือข่ายบ้านเมืองในแคว้นศรีสัชนาลัย สุโขทัย ทั้งหมดนี้จะต้องนำไปเชื่อมโยงกับข้อมูลของกลุ่มที่ค้นคว้ามรดกโลกแถบลุ่มน้ำอิรวดี และแม่น้ำโขง


ลมเย็นโกรกห้องนอน หน้าต่างลูกกรงซี่ กันโจรขโมยได้ แต่กันยุงไม่ได้ ยายอ่อนเดินเข้ามาเอามุ้งลง กลิ่นแดดยังหอมติดที่ผ้า พลางเร่งให้จันนวลเข้านอน


ก่อนนอนสิ่งที่จันนวลไม่ลืมคือ บันทึกเล่มเก่าคร่ำของท่านเจ้าคุณใหญ่



มาพระนครคราวนี้ ได้มาพักที่เรือนแม่พรรณ แถวบางกอกน้อย เดินทางไม่ลำบากสักเท่าไร ลงเรือข้ามฟากจากพระบรมมหาราชวัง มีเรือแจวเข้าคลองบางกอกน้อย ผ่านสถานีรถไฟสายใต้ ดูจวนเสรจเตมที ท่านเจ้าคุณยนตรชวนไว้วันก่อนว่าจะพามาลองนั่ง ก่อนใช้จริง เรือแจวผ่านวัดชีปะขาว วัดนายโรง พอถึงสามแยกวัดขี้เหลก เลี้ยวซ้ายเข้าคลองแม่น้ำสายเก่าสองฟากมีแต่สวนทุเรียน มังคุด กะท้อน เรือนแม่พรรณมีแพอยู่ริมคลอง เปนร้านขายส่งมะพร้าว ทุเรียน แล้วก็รับเอาข้าวจากกรุงเก่ามาขาย คึกคักมากทีเดียว เหนแบบนี้ยิ่งละอายว่าจะพาลูกสาวเขาไปลำบากอยู่บ้านนอกเสียนี่ พ่อของแม่พรรณ ไม่ได้เป็นชาวสวนอย่างทางฝั่งแม่ ท่านรับราชการสนองพระเดชพระคุณอยู่ที่หอรัษฎากรพิพัฒนในวังหลวง มีหน้าที่ตรวจตราสินค้าเข้าออกพระนคร เมื่อรู้จักคุณพ่อของแม่พรรณ ก็พอจะเดาได้ว่าแม่พรรณได้นิสัยกล้าหาญจากใคร พ่อของแม่พรรณนี้ ซื่อตรงเป็นที่สุด


พักอยู่ที่บ้านแม่พรรณได้ ๒ วันเจ้าคุณยนตร ก็ให้เรือมารับ แต่ย่ำรุ่ง จับรถไฟจากสำนักงานไปบางปอิน ท่านเจ้าคุณหยากให้ฉันได้เหนแนวเส้นทางแต่ต้น ที่บางปอิน หัวหน้าวิศวกรชาวบริเตนมารอรับ ทักทายกัน รอให้เติมน้ำ ฟืนเรียบร้อย รถไฟวิ่งต่อถึงปากเพรียว อีกสักพักก็จะเข้าเขตรดงพญาไฟ นึกถึงคราวที่เคยตามนายช่างเกียรสตมาหินลับ ผู้คนล้มตายกันมาก ด้วยไข้ป่า ชาวบ้านแถวนี้ว่าเจ้าป่าท่านดุนัก จะมาระเบิดหินอะไร ถ้าไม่ขอกัน มีได้ล้มตาย บางคนมาถ่ายหนักถ่ายเบา กลับไปจับไข้ หนาวสั่น ต้องกลับมาขอขมา ความทราบถึงพระเจ้าแผ่นดินท่าน จึงพระราชทานตราแผ่นดินมาตั้งไว้ งานการก็ลุได้


จากปากเพรียว ถึงโคลาด ใช้เวลากว่า ๖ ชั่วโมง นับว่าเรวทีเดียว แต่ก็เหนื่อยไม่น้อย ท่านเจ้าเมือง แลนายช่างเกียร์สต มารอรับที่สถานี ผู้คนก็ยังไม่มากนัก เริ่มมีการขนส่งข้าวจากโคลาดไปพระนครบ้างแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังติดใช้ทางเกวียนด้วยความเคยชิน


รุ่งขึ้นท่านเจ้าคุณยนตรไปพบท่านข้าหลวง พระยากำแหงสงครามรามภักดี (จัน อินทรกำแหง) ส่วนนายช่างแยกไปตรวจดูงานเดินรถไฟ ท่านเจ้าคุณ จัน สูงใหญ่ สง่าเปนที่เกรงขาม พูดเสียงดัง ท่านเมตตาให้ฉันร่วมโต๊ะเช้าด้วย จึ่งได้รู้ว่าข้าวเมืองโคลาดนี่ อร่อยไม่แพ้ข้าวทางสวรรคโลกบ้านเรา เอาจริงแล้ว ชาวบ้านทั่วไปมักข้าวนึ่งมากกว่าข้าวสวย แต่ท่านเจ้าคุณแลเหนว่าเรามาจากพระนครจึงรับรองด้วยข้าวสวย กับข้าวมีทั้งแบบไทย ลาว จีน มีแรงงานจีนที่มาทำรางรถไฟ เมื่อลุแล้ว ก็ตั้งรกรากที่นี่ไม่น้อย


ฉันเปนเดก เมื่อได้ยินผู้ใหญ่คุยกันย่อมเปนคุณแก่ฉัน ฉันคอยฟังแลอธิบาย ท่านเจ้าคุณยนตรว่า ชายแดนทางเมืองลาวกาว นี่ไม่น่าวางใจ ฝรั่งเศสคงจะหาเรื่องหาความมายึดเอาไปอีกเปนแน่ พระเจ้าแผ่นดินทางจึงอยากให้เร่งดูเส้นทางรถไฟ แลสร้างให้จดเมืองจำปาศักดิ ตอนนี้ที่เมืองโคลาด มีกงสุลฝรั่งเศสมาอยู่ คอยตรวจดูว่ามีอะไรเปนคุณแก่เขาไหม สยามเราจะไม่ยอม ก็ไม่ได้ เพราะทางฝรั่งเศสอ้างว่าชาติยุโรปอื่นๆ ก็เข้ามา ฝรั่งเศสพยายามเข้ามาร่วมในงานรถไฟสยาม แต่พระเจ้าแผ่นดินท่านยัง ไม่ ตอบรับ ท่านทรงเกรงว่าสยามจะถูกเถือออกไปจนเหลือแต่เพียงมณฑลลาวกลางนี่ ทางเหนือ ลาวพวน ก็น่ากลัวไม่น้อย แต่จะหาทุนจากที่ใดมาสร้างทางรถไฟ ลำพังข้าวอย่างเดียวคงจะไม่พอขายให้ได้ทุนมา


ที่โคลาดนี่ สิ่งที่น่าดูคือขบวนพ่อค้าวัวต่างบรรทุกสิ่งของลงมาขายนั้น แลดูคึกคักจริง ข้าวของก็หลากหลาย ข้ามมาจากฝั่งลาวเวียงก็มี แพรจีนก็มี แลบรรดาของป่า สมุนไพร หนังสัตว์ แลอาจซื้อขายแลกเปลี่ยนวัวควายกัน ทางเมืองลาวนี่ เรียกพ่อค้าวัวควายว่า นายฮ้อย


ท่านข้าหลวงยังว่า อยากให้สำรวจทางรถไฟออกไปทางนางรอง ขุขันธ์ อุบล ขนานไปกับ แนวเขาดงเรก แถวนี้ท่านว่ามีแต่ชาว ส่วย กุย เขมร เลี้ยงช้างบ้าง ปลูกข้าวบ้าง ยังไงเสียแล้วจะไม่ยอมให้อำนาจฝรั่งเศสข้ามแนวดงเรกมาได้ ท่านเจ้าคุณยนตรรับคำว่าจักดูแลจัดแจงเรื่องสำรวจนี่ แล กราบทูลเสดจในกรมฯ แลหันมากำชับต่อฉันว่าให้เกบคำอย่าเพ่อให้นายช่างเกียรสตรู้ความใดๆ ฝรั่งยุโรปจะอย่างไรก็อย่าเพ่อไว้ใจมาก


15 views0 comments

Kommentare


bottom of page