top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย (๒๑): สวรรคโลกเมืองต่อแดน (2)



กรกฎาคม พ.ศ.​๒๔๖๗


ฉบับที่ ๕


แสงเพื่อนรัก

เสาร์ อาทิตย์้นี้ ข้ามาช่วยแม่เองขนฝ้ายไปส่งที่บ้านดารา ทุกครั้งที่ข้าเหนสพานปรมินทร์ ข้าก็อดคิดถึงเองไม่ได้ เองจำได้ไหม เสียงดังหึ่งๆๆๆๆๆ เองมักตะโกน “บ้านดาราแล้วโว้ย จะถึงบ้านแล้ว” บางทีเราก็โดดลงที่คลองมะพลับ ไปทำงานที่โรงหีบฝ้าย พอได้สตางค์กินขนมกัน วันนี้บ้านดาราคึกคักมาก ถั่วเขียว ถั่วยี่สง บ้านเราของดีทั้งนั้น ทางเมืองน่าน หลวงพระบาง มารอซื้อกัน แล้วที่ส่งไปเมืองพระพิษณุโลกยอีก แม่เองนี่ขยันมาก แม่ข้าได้แต่ปลูก ค้าขายไม่เก่งเหมือนแม่เอง แม่บอกว่าซื้อขายกับแม่พรรณ สบายใจ ตอนนี้ ที่ท่าอิด ท่าเสา คนขวักไขว่ ตลาดวายเอาบ่ายแก่ๆ โน่น เยนลงมีกาดแลงที่ลับแล สนุกเทียวเองเอ๋ย



เองล่ะเปนอย่างไรบ้าง เหนว่าหายเงียบไป ข้าเดาว่าเองคงสนุกกับงานโทรเลขสิน่า เออ วันก่อนข้าเหนกองเสือป่าอยู่เมืองท่าเสานี่ก็มี แลดูไปก็ไม่ต่างจากทหารเสียเท่าไร ที่เองเล่าว่าได้ไปร่วมฝึกเสือป่า ข้าว่าก็ดีนะ อย่างน้อยเขาก็มองว่าเองไม่ได้เย่อหยิ่งถือตัว เองก็ออมแรง อย่าให้มันหนักมือนัก ฝีมือฝีตีนเองด้อยกว่าใครเมื่อไร


แสง ! ฝันอีกอย่างของข้าเปนจริงแล้ว หนังสือพิมพ์ ศรีกรุง จดหมายมาตอบรับ เรื่องที่ข้าเขียนส่งไป เองจำได้ไหม เรื่องพระร่วงอรุณกุมารกับแก่งหลวง นับแต่คราวเสด็จเมืองเก่าศุโขไทแลสวรรคโลกเมื่อคราวเราเด็กๆ ผู้คนก็สนใจเรื่องบ้านเรากันมาก ก็ที่เองได้มีวาศนาไปดูละครเรื่องพระร่วงน่ะ ข้านี่ตาร้อนเทียวล่ะ ข้าอยากเหน พระเจ้าแผ่นดินเล่นเปนนายมั่นปืนยาวเสียจริงๆ ทูลกระหม่อมคงสง่างามมาก เมื่อแต่งพระองค์ขึ้นมา ตัวพระร่วงข้าก็อยากจะเหนนัก ข้าภูมิใจจริงๆ ว่าแสงที่ได้เกิดเปนคนสวรรคโลก ข้าไม่เคยอายใครเลยจริงๆ ข้าจะใช้ชื่อนักเขียนว่า “ลูกพระร่วง” เองว่าดีไหมไอ้แสง


อีกสัก ๒-๓ วันซุงน่าจะล่องลงมาถึงหาดเสี้ยวอีกรอบแล้ว เข้าหน้าน้ำหลากนี่ น้ำยมแทบมองไม่เหนน้ำ ซุงเกลื่อนเตม น่าที่ข้าก็คอยตรวจไม้ดูว่าของห้างเรากี่ท่อน แยกขึ้นไว้ แล้วยังต้องดูบาญชีจากทางพระนครว่ามีใครสั่งไม้ไว้บ้าง บ้านเราตอนนี้มีทั้ง พวน เงี้ยว เข้ามา เหนว่าหนีข้ามจากฝั่งหลวงพระบางกันก็มาก หากินกันฝืดเคือง พวกฝรั่งดั้งขอมันเอาแต่ของดีๆ ไป ชาวบ้านก็หนีมาผูกซุงบ้านเรา บางคนก็ไปทำงานรถไฟ ที่เขาเจาะอุโมงขุนตานกันแล้ว แล้วลำปาง พวกแรงงานจีนก็มาก หามรุ่งหามค่ำ เหนเขาว่าสูบฝิ่นจัด นายช่างต้องคอยหาฝิ่นมาให้ พวกที่เคยไปทางหัวเมืองมลายู เขาก็ว่าพวกจีนคนงานเหมืองสูบฝิ่นจัด ข้าเหนแล้วท้อเลยไอ้แสง ผอมเหลือแต่กระดูก พ่อข้าว่าพวกนี่กินฝิ่นแทนข้าว ชอบกินปลาแห้ง แม่ข้าก็เอาปลาแห้งจากบ้านกงขึ้นไปขายที่ท่าอิด


เดี๋ยวข้าเกบเงินเข้าอีกหน่อย จะลงไปเยี่ยมเองที่พระนคร เองอย่าลืมนะเว้ย ไอ้แสง เองต้องพาข้าเที่ยวพระนคร ข้านี่อยากเหน วังหลวง เตมทีแล้ว



เรือง สุขศรี



‘นายเรืองเป็นใครกัน’ คงจะสนิทกับคุณปู่มากทีเดียว จันนวลคิดพลาง มองดูที่กล่องจดหมาย


‘ก่อนอื่น คงต้องแกะ ออกจากซองแล้วเรียงตามวันก่อน ไม่อย่างนั้นคงอ่านไม่รู้เรื่อง’ จันนวลคิดพลาง และยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องราวอะไรในเวลานี้ รอให้ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างเสียก่อนจะดีกว่า



ค่ำลง น้ำค้างลงจัด จันนวลยังคงนอนที่ตึกใหญ่ ห้องเจ้าคุณเล็ก หรือ ปู่ ของเธอ จันนวลมองภาพ ปู่ย่า ที่แขวนบนผนังเพลินไป พลางคิด คนสมัยก่อน แต่งตัวเข้ากันไปหมด เครื่องแต่งตัวดูไม่มากไม่น้อยจนเกินไป บางชิ้นก็ผ่านตา เมื่อตอนไปดูที่ธนาคาร


ชาในกายังอุ่น กรุ่นๆ ...


“ขิงค่ะ คุณ บ้านเราเยอะมากตรงหน้าบ้านริมน้ำยม ป้าเอามาฝาน ตากแห้งไว้ชงดื่ม กลีบกุหลาบแห้งก็เหมือนกัน ไม่มียาพ่นแน่นอน ตากแห้งแล้วหอมอ่อน ตัดกลิ่นตัดรสกับผิวมะกรูดนะคะ”


เสร็จจากร่างรายงานความก้วหน้าโครงการ The World Heritage Revisited ก็ไม่ลืมหยิบบันทึกท่านเจ้าคุณใหญ่มาอ่านต่อ ด้วยใจจดจ่อ


ฉบับใหม่

เมืองท่าอิด ท่าเสา ฤาที่เรียกกันด้วยชื่อพระราชทานใหม่ เมืองอุตรดิฐ ซึ่งฉันเองก็ยังไม่คุ้นเท่าไร แปลกันว่า เมืองท่าแห่งเมืองเหนือ ด้วยถือเป็นเมืองท่าสุดท้ายบนน้ำน่าน จากจุดนี้ หากจะเดินทางแยกไปทางเมืองหลวงพระบาง ผ่านทางไชยบุรีก็ได้ หรือจะขึ้นไปหัวเมืองลาวเฉียง แพร่ ลำปาง เชียงใหม่ ก็ได้ สววรคโลกบ้านเราก็ไม่ต่างกันนัก เพราะเราก็เปนเมืองท่าสุดท้ายบนลำน้ำยม จากแก่งหลวงขึ้นไป เรือก็ไปต่อไม่ได้แล้ว จะต้องใช้วัวต่างม้าต่าง ขึ้นไปทางบ่อแก้ว เมืองสอง เมืองพเยา แลข้ามไปถึงเมืองพยาก เชียงตุงได้ การมีสถานีสวรรคโลกก็จะช่วยขนส่งสินค้าจากเมืองเชียงตุง เมืองแพร่ ลงมาได้ แล้วส่งไปที่อุตรดิฐ


ท่านเจ้าคุณยนตรฯ โทรเลขมาว่า สถานีใหม่ที่สพานจะข้ามไป ทรงโปรดฯ ตั้งชื่อว่า บ้านดารา เปนเกียรติยศแก่พระภรรยาเจ้าดารารัศมี แห่งล้านนา ด้วยเป็นการเชื่อมแผ่นดิน ๒ ฝั่งแม่น้ำน่านเข้าด้วยกัน แลจากเมืองอุตรดิฐนี้ ก็ไปถึงเชียงใหม่ในไม่ช้า


ฉันนับถือน้ำใจนายช่างลูอิสมากทีเดียว ไม่ว่าร้อนหนาวนายช่างใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการหาวิธีตั้งเสาสพานทั้ง ๔ มุม ปัญหาใหญ่คือเรื่องน้ำหลาก น้ำน่านยามน้ำหลากก็เอาเรื่องไม่แพ้น้ำยม หัวจักรแบบไอน้ำดูจะใช้ได้ดียามแล้งแต่ไม่เหมาะเท่าไรนักยามน้ำหลาก นายช่างว่าอาจต้องใช้เครื่องแรงดันลม ความรู้เชิงช่างนี้ฉันยอมรับจริงๆ ว่า เยอรมันไม่แพ้ชาติยุโรปอื่นๆ สพานแห่งนี้จะมีความยาวประมาณ ๓๐๐ กว่ามีเตอร์


ฉบับใหม่


เส้นทาง สวรรคโลก ทุ่งเสลี่ยม บ้านด่าน ลานหอย ระแหง


วันก่อนวานตาเทียนช่วยพาฉันไปถางทางดูตำแหน่งแห่งที่แนวรางรถไฟไปเมืองระแหง สำคัญคือ น้ำต้องไม่ท่วมมากในระดูน้ำหลาก แลจะต้องมีแหล่งน้ำพอสำรับใช้กับหัวรถจักร ตาเทียนว่าสวรรคโลกมีน้ำใต้ดินอยู่มาก บึงก็มาก ยามน้ำยมหลากมา จะท่วมอยู่สัก ๔ - ๕ วันเท่านั้น แล้วน้ำจะไหลลงบึง แลบ่อ หากให้คนขุดลึกสัก ๑๐ วาก็จะมีน้ำผุดขึ้นมา จากสวรรคโลก แนวรางจะออกไปทุ่งเสลี่ยมอันเปนเขตรแดนกับเมืองลำปาง ตรงนี้มีทางเกวียนเดิมที่ชาวบ้านใช้ขนถ่ายของ ของต่างๆ จากเมืองเถินที่มาค้ากันที่สวรรคโลกก็ใช้ทางนี้ แถบทุ่งเสลี่ยมเปนที่ดอน ลาดขึ้น น้ำไหลลงหากขุดคูสักหน่อย เบี่ยงทางน้ำเหนจะดี จากจุดนี้ วางแนวรางตรงลงไป แถบบ้านด่าน พอมีคนอาไศรยอยู่บ้าง เปนที่ดอน แต่ต้องลองเจาะหาน้ำใต้ดินดู จากตรงนี้ก็ไม่ไกลจากเมืองระแหงแล้ว ออกทางตวันตกไปหากเดินก็คงสักวันหนึ่งน่าจะได้ ไม่เกิน ๒ วันเปนมั่นคง ตาเทียนเปนคนรู้ทางแถบนี้ดี พ่อเปนพราน จึงรู้วิธีไล่เสือเนื้อกวาง แต่คงจะคุยเสียมากกว่า



รับเสด็จ พระบรมโอรสาธิราช


มีเรื่องเร่งด่วนให้ต้องผละงานแนวรางไปก่อน คือท่านสมุหเทศาฯ เจ้าพระยาสุรบดินทร์ แจ้งว่ามีใบบอกจากพระนครว่าเดือนยี่นี้ พระบรมโอรสาธิราชจะเสดจขึ้นมาเที่ยวเมือง กำแพงเพชร ศุโขไท สวรรคโลก อุตรดิฐ ด้วยเหนว่า กรุงศุโขไทนี้ เคยเป็นราชธานีเก่าของชาวสยาม อีกทั้งพระพุทธรูป งามๆ ที่พระนครก็ชลอลงไปจากเมืองเหนือ จึงทรงอยากเสดจมาทอดพระเนตรชมเมืองเหนือ แลตรวจดูงานโบราณคดี ด้วยก่อนน่านี้มีพวกลักลอบขุดเอาของเก่าไปขายฝรั่งกันมาก หากการเปนเช่นนี้ อีกไม่นานสิ่งของสมบัติชาติของหมดเข้าสักวัน ตามหมายจะเสดจขึ้นมาถึงเมืองสวรรคโลกปลายเดือนยี่ ท่านสุมหเทศาฯ ขอให้จัดเตรียมคนนำทาง พราน สัก ๒ - ๓ คน แลให้ถากทางไว้ก่อนบ้างจะดี แลฉันต้องตามเสดจไปจนถึงเมืองอุตรดิฐ ฉันคิดถึงตาเทียนเปนคนแรก ตาเทียนแทบจะรู้จักอิฐทุกก้อนในเมืองสวรรคโลก


ฉันแลทหาร ชาวบ้าน ช่วยกันปลูกพลับพลาที่ประทับตรงวัดน้อย ก่อนเข้าเมืองสวรรคโลก คุ้งน้ำยมตรงนั้นงามชวนมอง เผื่อไว้จะประทับพักผ่อน ฤาพักแรมก็สุดแต่จะทรงโปรดฯ งานนี้จะผิดพลาดไม่ได้ทีเดียว ...


‘สถานี บ้านดารา ชุมทางบ้านดารา อ่อ คงเป็นที่เดียวกับตอนที่นั่งรถไฟมากับคณะของนัยน์ สะพานปรมินทร์ ชักไปดูเสียแล้วสิ ...’


จันนวลผลอยหลับไป กลิ่นดอกปีบ โมก โชยอ่อน ผ้ามุ้งขาวโปร่งกันลมชื้นได้อย่างดี



14 views0 comments

Comments


bottom of page