top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย ๒๓ : ฉวยชิง ชั้นเชิง (1)


เส้นทางรถไฟ เพชรบุรี สงขลา

“เสรจจากการรับเสดจพระบรมโอรสาธิราชเจ้าไม่ทันได้พัก ท่านเจ้าคุณยนตรฯ ได้ขึ้นมาตรวจราชการ ท่านเองเพิ่งกลับจากไป เมืองไทรบุรี กับท่านเจ้าคุณเสนาบดี กระทรวงโยธาธิการ ท่านเจ้าคุณเสนาบดี ได้รับพระราชโองการให้ไปแสดงความเสียใจที่พระเชษฐาของสุลต่านแห่งเมืองไทรบุรีสิ้นพระชนม์ ในการนี้ ได้ท่านเจ้าคุณยนตรฯ และท่านเจ้าคุณเสนาบดีได้พบกับกงศุลบริเตน แลข้าหลวงแห่งสเตรทออฟเซตเติลเมนต ฝ่ายบริเตน ได้ย้ำเตือนเรื่องการดำเนินการใดๆ การรถไฟสายใต้นั้น จะต้องได้รับความเหนชอบจากฝ่ายบริเตนก่อนเท่านั้น แลแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่สยามไม่เปิดให้ชาติอื่นในยุโรปเข้าเสนอราคาเหลกที่ใช้ในการสร้างสพานข้ามแม่น้ำน่านที่บ้านดารา ฉันเองเหนว่าเยอรมันมีความสามารถทัดเทียมแลอาจเหนือกว่าฝ่ายบริเตนด้วยซ้ำเรื่องรถไฟ ยังจำเรื่องนายช่าง แคมป์เบลได้ดี ทางรถไฟสายโคลาดที่ต้องล่าออกไป เพราะความไร้ฝีมือของนายช่างคนนี้ ข้อนี้ที่ท่านเจ้าคุณยนตรฯ มาเตือนฉัน ด้วยฉันไม่เคยรู้ว่า ฝ่ายบริเตนแลสยามมีสัญญาลับต่อกันเมื่อ ปี ๒๔๔๐ หลังจากเหตุการณ์ รศ ๑๑๒ สยามไม่ไว้ใจฝรั่งเศสจึงได้ขอให้ฝ่ายบริเตนช่วย โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าสยามจะต้องยอมรับอำนาจของบริเตนในมลายูรวมทั้งหัวเมืองต่างๆ นับแต่บางสะพานลงมา ถือว่าอยู่ในเขตอิทธิพลของบริเตน แต่ในความเปนจริงแล้ว บริเตนแทบไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เมื่อไม่กี่มานี้ สยามต้องเสีย หลวงพระบางฝั่งขวา จำปาศักดิ มโนไพร ให้ฝรั่งเศสไป ฝ่ายบริเตนก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลับส่งเสริมให้สยามทำตามที่ฝรั่งเศสเรียกร้อง ฝรั่งเศสเคยขอสัมปทานจะขุดคอคอดกระ ซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลบริเตน บริเตนก็ไม่ยอม เรื่องทางรถไฟสายใต้นี่ก็เช่นกัน นายช่างเกียรสตเคยท้วงแล้วว่า รถไฟเมืองเพชรบุรีควรสร้างให้มีราง ๑.๕๐ มีเตอรแต่สยามก็ยังต้องยอมตามฝ่ายบริเตน เพราะหวังความช่วงเหลือจากบริเตนนี้เอง นายช่างลูอิสมั่นใจว่า แม้จะเป็นรางแคบ ๑ มีเตอร์ เยอรมันก็สามารถสร้างได้แน่นอน แลมั่นใจว่าจะชนะการประมูล เพราะผลงานการวางทางสายโคลาดแลปากน้ำโพเปนประจักษชัดแล้ว เจ้าคุณยนตรฯ ไม่ต้องการให้ฝ่ายเยอรมันรู้เรื่องสัญญาลับนี่ เพราะจะทำให้ชาติยุโรปอื่นเอาอย่างตามบริเตน บีบบังคับสยามอีก หากจะสร้างทางรถไฟสายใต้ ไปยังเมืองไทรบุรี ปลิส เกลันตัน เตเรงกานู ก็คงต้องให้ฝ่ายบริเตน บริเตนนั้นต้องการเอาหัวเมืองมลายูทั้งหมด รวมทั้งเมืองแขกทั้ง ๗ ด้วย



15 มิถุนายน 2551


ก่อนหน้านี้ เท่าที่ได้คุยกับนายช่างลูอิส ดูท่าจะมั่นใจมากว่าจะได้คุมการสร้างทางรถไฟสายเพชรบุรี สงขลา หากแต่ก็มีข่าวระแคะระคายมาตลอด ซึ่งก็เปนข้อดี ช่วยให้นายช่างเตรียมใจเผื่อความผิดหวังไว้ ยิ่ง ท่านเจ้าคุณยนตรฯ ทูลท่านเสนาบดีเมื่อคราวกลับจากไทรบุรีว่าฝ่ายบริเตนอยากให้ทางรถไฟสายเหนือเปลี่ยนมาเปนอย่างทางสายใต้ รางแคบหนึ่งมีเตอร แลอ้างว่าถูกกว่ารางแบบปรัตยุบัน นายช่างลูอิสนี่ขึ้งอยู่มาก ข้อนี้ยิ่งเหนได้ชัดเทียวว่าบริเตนจงใจกีดกันเยอรมันให้พ้นทาง ก่อนหน้า อัครทูตเยอรมันพยายามติดต่อขอเช่าพื้นทีเกาะลังกาวี นอกฝั่งไทรบุรีไปคราวหนึ่ง แต่ฝ่ายสยามก็เงียบไป แลยังไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธใดๆ นี่เหนได้แท้เทียวว่าบริเตนคงเข้ายุแยงเปนมั่นคง นายช่างลูอิสได้เข้าเฝ้าฯ ทูลหม่อมเสนาบดี ชี้แจงว่าการเปลี่ยนรางเปนแบบนั้น อาจทำให้ฝ่ายสยามตกอยู่ในห้วงอันตราย ด้วยทางรถไฟสายเหนือนั้น หากขึ้นไปถึงลำปาง เชียงใหม่ ก็จะอยู่เขตอำนาจบริเตน ยิ่งทางสวรรคโลก เมืองระแหงนั้นใกล้เมืองท่ามะละแหม่งมาก ฝ่ายบริเตนคงหาทางบีบบังคับให้เอาสินค้าไปลงฝั่งมะละแหม่งเปนมั่นคง ข้อนี้ ทูลหม่อมเสนาบดีก็ทรงเหนด้วยกับนายช่างลูอิส


15 ตุลาคม 2451


มีโทรเลขแจ้งมาที่มณฑลว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระเจ้าแผ่นดินท่านจะเสดจพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศ์ คุณะให้ทางรถไฟถึงเมืองปากน้ำโพ ในวันที่ ๒๕ เดือน ๑๑ นี้ แลจะเสดจทางเรือต่อขึ้นไปจนถึงเมืองอุตรดิฐ เพื่อทอดพระเนตรชีวิตรความเปนอยู่ของราษฎร การที่สยามได้สร้างทางรถไฟออกไปทุกมณฑลนี้ ไม่ได้เพียงแต่เพื่อปกป้องพระราชอาณาจักร แต่ทรงต้องการ เชื่อมราษฎรทุกหัวเมืองเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเสดจเยี่ยมได้ง่ายกว่าแต่ก่อน ท่านเจ้าคุณยนตรฯ มีคำสั่งให้ฉันเปนผู้กำกับการอนามัยในตู้รถทั้ง ๙ ขบวน ม่านหน้าต่าง พื้นตู้รถ ต้องสอาดเรี่ยม แลห้ามไม่ให้ลื่น ฉันเองก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้เหนใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทใกล้ตาก็คราวนี้


25 ตุลาคม 2451


วันนี้ฉันตื่นเต้นที่สุดก็วันนี้ ฉันรอเฝ้ารับเสดจด้วยใจจดจ่อ ฉันยืนรอรับเสดจพระเจ้าแผ่นดินอยู่ข้างตู้รถที่ประทับ โดยยืนอยู่หลังนายช่างลูอิส ท่านเจ้าคุณยนตรฯ เมื่อเสดจถึงทรงมีพระราชปฏิสันถารกับท่านนายช่างแลเจ้าคุณยนตร ทรงตรัสถามเรื่องทางรถไฟที่จะสร้างไปเมืองอุตรดิฐ แลสวรรคโลก ท่านเจ้าคุณยนตรฯ ได้แนะนำฉันต่อหน้าใต้ฝ่าพระบาทว่าเปนนายทหารที่ส่งไปฝึกงานที่เยอรมนี ฉันตื่นเต้นน้ำตาไหลเปนทาง แลโค้งถวายคำนับ ทรงแย้มสรวล แลรับสั่ง “ดีๆ” ตลอดเส้นทางเสดจ มีราษฎรมารอรับเสดจมากมาย ทูลหม่อมเสนาบดีให้ขบวนรถหยุดตาม สถานีหลักๆ เช่น บางปอิน บ้านภาชี ลพบุรี ทรงโบกพระหัตถทักทาย ...


แสงจันทร์สาดลอดหน้าต่างลูกกรงแบบเก่า จันนวลยังคงเพ่งอ่านบันทึกท่านเจ้าพระยาสวรรครักษราชโยธินด้วยความใคร่รู้ ตื่นเต้น และทึ่ง


‘เรื่องทางรถไฟนี่ การเมืองระดับชาติเลยหรือนี่ คุณทวดเราก็ไม่เบาทีเดียว’


จันนวลไม่เคยรู้มาก่อนว่าครอบครัวตนเองเคยมีบทบาทมากในการสร้างทางรถไฟ และรถไฟนี้ คือผลประโยชน์ที่แย่งชิงกันบนแผ่นดินสยาม ระหว่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี สยามเองก็คงกลัวที่จะเสียพื้นที่ยิ่งไปกว่าเดิม ทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก เรียกได้ว่าพยายามรักษาพื้นที่ไว้สุดเหยียดแขน ทั้งยังต้องคานอำนาจต่างประเทศ ๓ ชาตินี้ไว้ ถ่วงประโยชน์ซึ่งกัน และที่สุดไม่มีชาติไหนจริงใจกับสยาม นอกจากคนสยามกันเอง ใครจะรู้ สถานีรถไฟสวรรคโลกเล็กๆ ครั้งหนึ่งเคยถูกคาดหมายให้เป็นสายป้องพระราชอาณาจักร เมื่อยิ่งรู้ ก็ยิ่งอยากค้น เผื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการเขียนรายงาน พลางนึกขึ้นได้ว่า ตู้หนังสือใบหนึ่งของคุณทวดยังเปิดไม่ได้ เพราะหากุญแจไม่เจอ ตั้งใจจะจ้างคนมาสะเดาะก็ลืมไปทุกครั้ง


‘พรุ่งนี้ให้พี่มั่นมาจัดการ น่าจะได้ข้อมูลอีกพอสมควร’


เส้นทางจาก สวรรคโลกไปอุตรดิตถ์ค่อยๆ ไต่ความสูงขึ้น อากาศเย็น สอาด ปลอดโปร่ง สองข้างทางดูเป็นป่าโปร่งลำต้นสูงชะลูด เขียวสุดตา


“เหมือนในยุโรป เลยค่ะกรัน”


“ครับ เส้นศรีสัชนาลัยไปอุตรดิตถ์สวยมากครับ เป็นป่าโปร่งๆ มีน้ำตกด้วยนะครับ เดี๋ยวผ่านไปทางฟ้าฮ่าม ผมจะพาไปทานข้าวพันของชาวบ้าน เคยทานไหมครับ”


“แบบที่ร้านยายเครื่องใช่ไหมคะ ถ้าแบบนั้น เคยค่ะ”


“ใช่ครับ มีเฉพาะแถบนี้เท่านั้นครับ อาจเลยไปถึง แพร่นิดหน่อย”


“ฉันว่า เป็นของกินที่ดีต่อสุขภาพมากเพราะไม่มีน้ำมัน ใช้นึ่งเอา”


จันนวลชวนคุยตลอด 2 ข้างทาง อะไรๆ ก็ดูน่าตื่นเต้นแปลกใหม่ไปหมดสำหรับเธอ กรันพาจันนวลไปกราบพระบรมธาตุทุ่งยั้งก่อน ตามที่แม่ลำพาแนะ เพราะเป็นประเพณีของบ้านท่านเจ้าคุณใหญ่ ที่จะต้องขึ้นมากราบพระบรมธาตุสำคัญในหัวเมืองเหนือ พระวิหารดูเงียบสงบ ร้างผู้คน มีเพียงหญิงกลางคนนั่งร้อยดอกไม้ จันนวลรับมาลัยและช่อดอกไม้ ส่งต่อให้กรัน ทั้งสองเดินไปที่หน้าพระประธาน กรันใจเต้นแรง จนจันนวลรู้สึกได้


“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูกรันตื่นเต้นจัง”


กรันหันมาสบตาจันนวล ทั้งที่เขินเต็มที “ผมไม่เคยได้อธิษฐานคู่กับใครมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต คุณจะรับความรักของผมไหม”


จันนวลไม่ได้เขินอายอะไร ยิ้มรับ พลางว่า “ไหว้พระกันก่อน คุณอาจจะสมหวังในคำอธิษฐานก็ได้นะ”


กรันก้มหน้า รอยยิ้มที่มุมปาก ผิวคร้ามแดดตัดกับไรเคราเขียวครึ้ม


“คุณนวลอธิษฐานอะไร จะเหมือนผมไหม”


“ขอให้งานการทุกอย่างราบรื่นคะ มีเรื่องต้องสะสางจัดการมากมาย ทั้งงาน UNESCO ก็เร่งเข้ามาแล้ว ต้นปีหน้า คณะทำงานคงบินมาสำรวจงาน แล้วก็เรื่องทรัพย์สินที่ดินต่างๆ”


“คุณนวลจะกลับเยอรมนีหรือครับ” เสียงกรันแผ่วไป


“ยังไม่รู้ค่ะ คงต้องไปๆ มาๆ”


“คำอธิษฐานของผมคงไม่เกิดผล”


“ใจร้อนจริง อธิษฐานอะไรกัน ไม่ถึง 10 นาทีจะเอาผลเลย”

7 views0 comments

Comments


bottom of page