top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย (๒๔) : รถไฟสายเหนือ - ความมั่นคงแห่งพระราชอาณาจักร (๑)



“The early bird gets the worm” จันนวลคิดแบบนี้เสมอ เป็นเหตุผลที่ทำให้จันนวลตื่นเช้าทุกวัน ไม่ว่าจะวันไหน ใจนึกถึงตอนสนุกในบันทึก จึงรีบอ่านต่อ



24 ธันวาคม 2451

จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าทางรถไฟสาย บ้านดารา ระแหง จะออกไปทางไหน ที่แน่นอนคือจากบ้านดารามาถึงสวรรคโลกบ้านเราแน่นอน ฉันกะด้วยตาไว้ น่าจะมีทั้งสิ้น ๖ สถานี แถวคลองมะพลับคนมาก น่าจะทำเป็นสถานีใหญ่หน่อย ส่วน แถว คลองยาง วัดคลองปู คงทำเปนเพียงจุดแวะรับสินค้า ชาวบ้านแถวนี้ปลูกฝ้ายกัน ถั่วเขียวกันมาก แล้วมาสุดก่อนถึงตลาด ริมยม เปนสถานีสวรรคโลก ด้วยแถวนี้มีพ่อค้าแม่ค้าขายมาจากทางทุ่งเสลี่ยม บางขลัง กันมาก ทั้งพ่อค้าวัวต่างจากเมืองแพร่ก็มีอยู่ไม่น้อย ฉันส่งคนออกไปดูที่ทางว่าแถวไหนพอจะมีหินมากพอจะใช้ถมแลพูนทางรถไฟ แลเหนทีว่าจะเปนแถบย่านยาวหลังบ้านเรา ตรงเขากระพัง ดูแล้วพอจะระเบิดหินเอามาใช้ถมรางรถไฟได้


เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือ แรงงาน ที่จะสร้างทางรถไฟมาสวรรคโลก แลออกไปทางระแหง นายช่างเหนว่าจะแบ่งเอากุลีจีนจากทางเมืองพิชัยมา แลแรงงานลาวกาวที่ขึ้นมาทำราง ก็มีอยู่ ดูทีแล้ว น่าจะมากพอสำรับขนหินถมทาง วางราง


กุมภาพันธ์ 2452


ท่านเจ้าคุณยนตรฯ แจ้งมาทางลับว่า ทางรถไฟจากบ้านดาราแยกมาสวรรคโลกนี้ จะอยุดที่บ้านเราก่อน เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายบริเตนกดดันอีก แลจะแจ้งแก่นายช่างลูอิสว่ากรมรถไฟไม่มีทุนรอนพอ จะอย่างไรแล้ว การตรวจดูเส้นทางยังทำได้ต่อไป สบโอกาสเมื่อใดก็จะลงมือทันที เช่นนี้ก็จะไม่เสียน้ำใจแก่ฝ่ายบริเตน แลฝ่ายเยอรมนีก็จะไม่ได้ใจว่าสยามอยู่ข้างตน ท่านเจ้าคุณยนตรฯ ว่าทางรถไฟสายใต้นั้น สยามคงไม่มีทางเลือก ต้องยอมให้อยู่ในอำนาจของบริเตน แลกกับอะไรๆ หลายๆ อย่าง ฉันรู้สึกแปลกใจ กับคำว่า อะไรๆ ของท่านเจ้าคุณ นี่เรายังเสีย อะไรๆ ไปไม่พออีกฤา พระบารมีของใต้ฝ่าพระบาทถูกบั่นลงไปเรื่อยๆ เมืองจันทบุรี ตราษ ด่านซ้าย เราก็เกือบต้องเสียไป ซ้ายก็จะเอา ขวาก็ไม่ยอม ห้างไม้เมืองแพร่ เมืองสอง ก็พวกบริเตนกุม ฉันไม่ชอบใจเอาเสียเลย ตัดกันจนเหี้ยน ทางสวรรคโลกบ้านเรามีไม่มากพอ ก็รอดไป จริงว่า เงินรูปีสะพัดมากในบ้านเรา ดีกว่าเงินสยามอีก แต่ดูแล้วเราเสียศักดิศรียิ่งกว่า บ้านเมองเราเองแท้ๆ แต่กลับใช้เงินต่างถิ่นต่างแดน



มีนาคม 2452


ตอนนี้สถานีสวรรคโลกเริ่มสร้างแล้ว อีกไม่นานคงเรียบร้อย รางก็วางไปถึง วัดคลองปู อีกไม่นานคงถึง คลองมะพลับ แล้วก็ถึงบ้านดารา ตอนนี้โรงกุลีจีน ตั้งเรียงรายกันสองฝั่ง เรื่องฝิ่นนี่ ห้ามกันยาก ทำได้ก็แค่ไม่รู้ไม่เห็น ชาวบ้านก็มักจะเอาของไปขายพวกจีนทำทางนี่ แต่ฉันก็ไม่อยากให้เราเอาอย่างเรื่องสูบฝิ่น เหล้ายานี่ คนบ้านเราก็กินกันมากอยู่แล้ว เอาแค่ว่าอย่ามีเรื่องต่อยตีกันก็พอ


นายช่างลูอิสว่า จะส่งช่างคนเยอรมันมาประจำการสักพัก ตอนสถานีเปิดช่วงแรกเพราะที่นี่ ต้องเปนจุดเติมฟืนเติมน้ำ สวรรคโลกบ้านเรา อิ่มน้ำยมขุดดินลึกลงไปก็มีน้ำขึ้นมา ไม่ต้องกลัวแล้ง


ตุลาคม 2452

ตอนนี้ ต้องเร่งเตรียมการรับเสดจฯ พระบรมโอรสาธิราช จะทรงเสดจมาเปิดทางรถไฟสายสวรรคโลก แล้วจะได้เสดจต่อขึ้นไปชมเมืองเก่าอีกครั้ง ฉันยังไม่เหนหมายกำหนดใดๆ ท่านเจ้าคุณยนต์แค่แจ้งมาว่า จะเสดจฯ เปิด เท่านั้น จึงต้องกะเกณฑคนมาช่วยงานให้พอ แม่พรรณรับอาสาเรื่องสำรับคาวหวาน เหนว่าจะสั่งเครื่องสังคโลกใหม่ทั้งหมด นานๆ บ้านเราจะมีงานใหญ่สักครั้ง เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเสดจมากเยือน แม่พรรณย่อมทำเตมที่ ทั้งเปนคนในรั้วในวังมาแต่ก่อน โชคดีจะได้พบเจอคนเก่าแก่ที่เคยคุ้นกัน ฉันเองนี้ ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ นับแต่แม่พรรณมาอยู่สวรรคโลกนี้ เคยกลับไปเยี่ยมบ้านที่บางกอกน้อยแค่ ๒ ครั้ง ทั้งอยู่แค่ไม่กี่วัน ก็ต้องกลับมาสวรรคโลกอีก แต่แม่พรรณไม่เคยบ่นให้ไม่สบายใจเลย เธอช่างเปนศรีของเรือนจริงๆ งานนี้ แม่พรรณจะคุมเครื่องคาวหวานเองทั้งหมด ทั้งในส่วนที่ถวายพระ และรับรองแขก ส่วนเครื่องเสวยนั้น รอเพียงหมายแจ้งมาว่าจะทรงรับเครื่องว่าง หรือเสวยกลางวัน แม่พรรณจะได้ตระเตรียมถูก แต่เหนว่าจะตั้งเครื่องฝรั่ง แม่พรรณเองก็เคยจำๆ มาจากห้องเครื่องตำหนักใหญ่ในวังหลวง



7 ธันวาคม 2452


17 ธันวาคม เสด็จกลับ พระนคร


9.40 จากพิษณุโลก


11.00 ถึงบ้านดารา



ฉันตื่นเต้นเหลือเกิน ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ พรุ่งนี้แล้วสิ สถานีรถไฟสวรรคโลกจะเปิดเปนการเดินรถ พรุ่งนี้ฉันต้องไปค้างแรมที่บ้านดารา เตรียมการรอรับเสดจ วันนี้เลยแวะไปกราบหลวงพี่ทองคำที่วัดกลาง ชงชาจีนถวาย แล้วกลับมาดูกระโจม ปะรำ รับเสดจ ตะเกียงเจ้าพายุแขวนเรียงรายอยู่หน้าปะรำ ธงช้างเผือกปลิวสะบัด ตามลม เช้าๆ ลมพัดอ่อนเยนสบาย พื้นไม้ยกไว้เป็นที่ประทับ เก้าอี้ไม้สักอย่างดีที่สุดในเมืองสวรรคโลกเรา ฉันมีเวลาไม่มากนัก ด้วยต้องเตรียมตัวไปบ้านดารา ทหารม้าเตรียมม้าอย่างดีไว้แล้ว ตามหมายกำหนดการ วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๒ จะเสดจจากสถานีเมืองพระพิษณุโลกย ประมาณสัก ๓ โมงเช้า นายช่างลูอิสจะตามเสดจฯ จากสถานีไปยังบ้านดารา ฉันจะคอยรับเสดจที่บ้านดารา เหนแม่พรรณว่าโรงครัวทางอุตรดิฐก็คึกคักอยู่ไม่น้อย ชาวบ้านที่เมืองลับแลงเตรียมสำรับทางเหนือไว้รับรองแขกเหรื่อ แลตั้งเครื่องเสวยกลางวันอย่างล้านนา


๗ ธันวาคม ๒๕๕๒


วันนี้ฉันตื่นแต่เช้ามืด เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยจริงๆ ตื่นเต้นเสียจริง แต่ตัวเสรจ จึงออกมาตรวจตราความเรียบร้อยนี่ชาลาสถานี โต๊ะบูชารับเสดจ ชาวบ้านตระเตรียมกันได้สวยงาม แพรธงช้างเผือกปลิวล้อลม เช้ามืดอากาจเย็นสบายออกจะชื้นด้วยซ้ำ แพรคลุมป้าย “สพานปรมินทร์” เหนอยู่รางๆ แค่เพียงพระนาม ฉันก็รู้สึกน้ำตารื้น รฤกถึงความตั้งมั่นของใต้ฝ่าพระบาทที่พร้อมปกป้องผืนแผ่นดิน สพานปรมินทร์เชื่อมแผ่นดิน ๒ ฝั่งเข้ากัน ฝ่าน้ำเชี่ยวกราก จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า นายช่างลูอิส ฉัน คนงานหลายคนที่ล้มป่วย บางคนเปนไข้ป่าตาย แลที่สุด สพานข้ามทางรถไฟแห่งแรกบนน้ำน่านก็เอาชนะความดุดันของน้ำได้ เมื่อถึงเวลาเสดจจริงฉันนี่ยืนตัวแขงทื่อ ทำอะไรไม่ถูก สมเดจพระบรมฯ ทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ แลพระราชทานพระหัตถ์แก่นายช่างชาวต่างประเทศทุกคน ฉันยืนอยู่ในแถวที่ ๒ เมื่อถวายคำนับแล้ว ท่านเจ้าคุณยนตรจึงแนะนำฉันต่อฝ่าพระบาท ทรงพระสรวล แลตรัสชมทุกคนที่มีส่วนการก่อสร้างทางรถไฟมาถึงบ้านดารานี้ได้ ทรงสนพระทัยสะพาน ปรมินทร์ อย่างยิ่ง แลชักภาพอยู่สักพักใหญ่ เมื่อถึงฤกษ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร แลทรงชักแพรเปิดป้าย “สพานปรมินทร์​“ บัดนี้ แผ่นดิน ๒ ฝั่งแม่น้ำน่านได้เชื่อมต่อกันแล้ว ทำนองเพลงชาติสยามบรรเลง หลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เสวยกลางวันเสรจ ทรงเสดจฯ ต่อไปชมหัวรางที่สถานีปางต้นผึ้ง ฉันได้ตามเสดจด้วย ทรงสนพระทัยว่าจะวางรางต่อไปถึงเชียงใหม่ทางใด เพราทรงเหนว่ามีแต่ภูเขาสูงทมึน สักพัก ทรงเสดจกลับมายังบ้านดารา แลต่อไปยังสถานีสวรรคโลก รถไฟแล่นช้าๆ ให้ชาวบ้านได้ชมพระบารมี ขณะรถไฟผ่าน คลองละมุง คลองมะพลับ หนองเรียง ชาวบ้านพากันตะโกน “เจริญพระชนม์” ทรงยิ้มโบกมือรับ เมื่อถึง สถานีสวรรคโลก หลวงพี่ทองคำ ยืนรอรับเสดจ เจ้าเมือง กรมการเมือง ยืนเรียงกันตามลำดับตำแหน่ง พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เสรจแล้ว ทรงเปิดแพรคลุมสถานี ตัวหนังสือ สถานีสวรรคโลก เด่นชัด ขึ้น ประจวบเหมาะเวลาพอดี เสียงหวูดรถไฟดังขึ้น ชาวบ้านต่างๆ ส่งเสียงโห่ร้อง เฮ ดังขึ้น พร้อมเสียง เจริญพระชนม์ แล้วเสดจไปประทับที่ปรำหน้าสถานี แม่พรรณแต่งตัวงามมาก กลัดเข็มกลัดที่ทรงได้รับประทานจากเสดจพระองค์หญิง ซิ่นทอมือจากพวกพวน ฉันไม่เคยเหนแม่พรรณแต่งตัวงามแบบนี้มานานโขแล้ว แม่พรรณก้มลงกราบฝ่าพระบาท แล้วลุกขึ้นจัดเครื่องว่าง ปั้นขลิบไส้ปลา รู้กันทั่วสวรรคโลกว่าแม่พรรณที่หนึ่ง เค้กกล้วยหอม ที่แม่พรรณเรียนจากกุ๊กจีนในวัง ก็ได้อวดฝีมือกันวันนี้


ฝ่าพระบาทจะทรงประทับที่เมืองสวรรคโลกอีกหลายวัน ด้วยอยากชมเมืองสวรรคโลกเก่าอีกครั้ง น่าเสียดายว่าฉันไม่ได้ตามเสดจในคราวนี้ เพราะต้องลงไปพระนครทำราชการ ...

24 views0 comments

コメント


bottom of page