top of page

แสงสรวงสัชชนาไลย๒๕ :คำให้การขบถ รศ ๑๕๑ (๒๔๗๕)



"อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี พระชลการภักดี (สว่าง เจริญสินธุ)” (1)



กลิ่นควันไม้ลอยอ้อยอิ่งตามลมขึ้นไปถึงเรือนใหญ่ จันนวลลงมาทานมื้อเช้า คนไทยเช้ามา ก็กินข้าว แม่ลำพาทำไข่ตุ๋นเนื้อนวล ผักกวางตุ้งลวก ราดน้ำมันงาเจือน้ำมันหอยหน่อยหนึ่ง หมูเค็มหั่นชิ้นเล็ก เพียงเท่านี้ก็ผ่านไปได้สำหรับมื้อเช้าเรียบง่าย


ไม่รอช้า จันนวลเตรียมอุปกรณ์ น้ำยาทำความสะอาด ซึ่งคนในบ้านต่างก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องใช้มากขนาดนั้น


สวมหน้ากากผ้ากันฝุ่นแล้ว จันนวลบรรจงเช็ดกล่องเหล็กช้าๆ ‘คงเป็นเนื้อดีบุก สนิมไม่มีเลย’


ภายในมีกระดาแผ่นใหญ่ขึ้นคราบเหลืองประปราย อยู่ 3-4 แผ่น เมื่อคลี่ออกดู เห็นว่าเป็นแผ่นที่ มีมารตราวัดกำกับอยู่ และภาษาเยอรมัน “Die Eisenbahn Bann Dara nach Rahang I” “Die Eisenbahn Bann Dara nach Rahang II” “Die Eisenbahn Bann Dara nach Rahang III” ทั้งหมด 3 แผ่น เป็นแผนที่ทางรถไฟ 3 ระยะ จากบ้านดารา - สวรรคโลก สวรรคโลก - บ้านด่าน และ บ้านด่าน - ระแหง ตัวรางมีขนาดกำกับไว้ รวมทั้งจำนวนหิน ที่ต้องใช้ถม จันนวลตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก พลางคิด


‘เอกสารข้อมูลทางประวัติสาสตร์ทั้งนั้นเลยนี่ น่าส่งเข้าพิพิธภัณฑ์จริงๆ’


เมื่อตั้งสติลดความตื่นเต้นลงได้ จึงคิดขึ้นได้ว่าควรจะปรึกษา นัยน์ ‘ใช่ นัยน์จะให้คำปรึกษาที่ดีได้แน่นอน’


กองหนังสือที่จันนวลรื้อออกจากตู้กองอยู่ จึงรีบเก็บเข้าที่ กลัวว่าหนังสือจะตกหล่นหาย


‘เอ้า หล่นหมด หนังสือเก่าด้วยสิ ขาดไหมนี่’ จันนวลนึก พลางก้มลงเก็บหนังสือขึ้นมา


“คำให้การขบถ รศ ๑๕๑ (๒๔๗๕)


อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี พระชลการภักดี (สว่าง เจริญสินธุ)”


‘ปกสวยดีจัง ลายเส้นวัดมหาธาตุสุโขทัย’


จันนวล พลิกๆ ดูเห็นว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระร่วง รวมทั้งบทละครรำ เรื่อง พระราชธิดาพระร่วง จึงแยกไว้ ไม่ได้เก็บเข้าตู้ พลางคิด


‘น่าสนใจ เก็บไว้อ่านก่อน’


อ่านได้สักย่อหน้าหนึ่ง จันนวลถึงกับต้องหยุดทุกอย่าง และอ่านต่อให้จบ เพราะมีคำว่า “พันเอก พระเดชาสววรคโยธิน”


‘คุณปู่ ทำไมมีชื่อคุณปู่ด้วย เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณปู่เลย’


คิดคำนึงถึงความหลัง

สว่าง เจริญสินธุ์​


ขอบารมีแห่งองค์พระร่วงเจ้า พ่อขุนบางกลางท่าว พ่อขุนบาลเมือง พ่อขุนรามคำแหง พรญาเลอไท พรญาฦาไท พระขพุงผีแห่งกรุงศุโขไท

เปนความตั้งใจของข้าพเจ้ามาช้านาน ที่จักเขียนความจริงให้อีกฟากหนึ่งให้เปนประจักษแจ้ง มิให้เข้าใจ มิได้จักล้างผิด เพราะหามีความผิดใดให้ล้าง อีกทั้งเปนการแสดงความเสียใจอย่างที่สุด อันมิตรที่ดีของข้าพเจ้า ๒ ท่านได้ถึงแก่ มรณกรรม ไป โดยปราศจากการยกย่องใดๆ นั่นคือ พันเอก พระเดชาสววรคโยธิน แล นาย เรือง สุขศรี ข้าพเจ้าหมายให้หนังสือฉบับนี้เผยแพร่เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าได้สิ้นลมหมดบุญไปแล้ว แลได้ไปพบกับมิตรสหายทั้ง ๒ ในสัมปรายภพ


อันที่จริงแล้ว เราทั้ง ๓ คนอาจนับเนื่องเปนพี่น้องร่วมเมืองได้ ข้าพเจ้าเอง เกิดที่ ตำบล เมืองเก่า ศุโขไท นายแสง หรือ พระเดชาสวรรคโยธิน และ นายเรือง เปนคนเมืองสวรรคโลกโดยกำเนิด แต่ในวัยเยาว์เราหาได้เคยพบกันไม่ ด้วยการเดินทางสมัยก่อนนั้นยากลำบาก การจะรู้จักหน้ากันเปนเรื่องยาก


ข้าพเจ้าเอง แม้จะเกิดอยู่ทางเมืองเหนือ แต่ก็ภาคภูมิใจที่ได้รับราชการในกองทัพเรือ ราชนาวี แห่งสยามประเทศ ขณะที่ศึกษาวิชาการทหาร ก็ได้รับโอกาสอันดี ได้ไปศึกษาวิชาเสนาธิการ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้น มีนักเรียนไทยซึ่งได้รับทุนเล่าเรียนสาขาต่างๆ อยู่หลายคน บรรยากาศทางการเมืองขณะนั้น เข้มข้นดุดัน ข้าพเจ้าเองยอมรับว่ามีความสนใจเปนอันมาก ทั้งที่ได้รับคำเตือนจากหลายฝ่ายว่าอาจถูกเพ่งเลง ข้าพเจ้าเองนั้น แม้จักเหนด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นย่อมมีความจำเปน ด้วยบ้านเมืองรุดน่าไปมาก จำต้องปรับตัวให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ทั้งเหนว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนการปกครอง การเลิกทาสแห่งองค์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็คง เสียเปล่า เปนมั่นคง พระองค์ทรงเบิกทางไว้แล้ว เราจำต้อง ถาง ทางต่อไป ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนักว่าการเปลี่ยนแปลงจะออกมาในรูปแบบได้ ดีมอคเครซี รีปับลิค อย่างฝรั่งเศส ก็ดูจะไม่เข้ากับสยาม บอลเชวิค อย่างรัสเซียนั้น ก็ออกจะโหดร้าย แลดูเปนฝันมากกว่าจริง ข้อสำคัญคือ องค์ประมุข พระมหากษัตริย์ของสยามนั้นทรงคุณอันประเสริฐ​ หลายข้อที่ข้าพเจ้าไม่เหนด้วย แลไม่เหนงาม ก็เพียงแต่รับฟัง อีกทั้งบรรยายกาศรัานกาแฟ Cafe de La Paix ก็ชวนให้นั่งขบคิดเรื่องราวในอนาคต ข้าพเจ้าเหนความตั้งใจดีของหลายท่านที่ต้อการนำประเทศไปสู่ความเปนอารยะ



เมื่อข้าพเจ้าเดินทางกลับมาสยาม แลเข้ารับราชการ ก็ได้รู้จักกับนายทหารช่าง แพนกสื่อสาร หลวงเดชาสวรรคโยธิน ต่อมาจึงเลื่อนขึ้นเปน พระเดชาสวรรคโยธิน แรกทีเดียว ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนักว่า คุณหลวงรับราชการฝ่ายใด ด้วยราชทินนามนั้นไม่แจ้ง สืบความได้วา ท่านเปนคนเมืองสวรรคโลก แลคงได้รับราชทินนาม คล้องกับบิดาท่านคือ พระยาสวรรครักษราชโยธิน นายทหารผู้ใหญ่กรมรถไฟ ผู้มีส่วนในการวางรางรถไฟสายเหนือ และสายสวรรคโลกอันข้าพเจ้าจักได้เล่าแจ้งต่อไปข้างหน้า คุณพระเดชาฯ เปนผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้องแลจงรักษ์พระเจ้าแผ่นดินอย่างที่สุด โดยมิต้องสงสัย บ่อยครั้งที่คุณพระถูกเหยียดหยามในความ “หัวเก่า” แลหลายครั้ง ก็ขัดเคืองกับข้าพเจ้า ที่สุด ข้าพเจ้าก็หว่านล้อมให้คุณพระเดชาฯ เข้าใจความก้าวหน้าแห่งบ้านเมือง นานาอารยประเทศ​ การก้าวหน้านั้น องค์พระมหากษัตริย์ก็ยังคงดำรงอยู่ หากไม่ปรับตัวใดๆ เลย เราย่อมโดนกลุ่ม “หัวใหม่” เดียดฉันท์ ดูแคลน แลจักถูกเพ่งเลง เพลานี้ จึงต้อง ลู่ตามลม แต่เราก็ยังคงมีจุดยืนของเราได้ แลการ ลู่ตามลม นี้ ก็จักเปนหนทางให้เราปกป้ององค์พระเจ้าแผ่นดินได้ ข้าพเจ้า คุณพระเดชาฯ จึ่งได้สมัครพรรคพวกพอควร แต่การจะเผยตัวตนนั้น เปนเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง ด้วยกลุ่มที่คิดการใหญ่นั้น แบ่งออกเปนหลายก๊กหลายเหล่า เดิมที ก็ดูเหมือนจะสมัตรสมานสามัคคีกัน โดยมี ชาติบ้านเมือง แต่แล้วกลับออกประกาศใส่ความองค์พระเจ้าแผ่นดิน โดยหามีมูลความจริงไม่ เหตุการณ์โภคกิจอัตคัตนั้น ย่อมรู้ดีว่าแทบทุกประเทศได้รับผลร้ายหนักกันถ้วนหน้า ยิ่งกลุ่มประเทศในอาณานิคมบริเตน หนักหนาสาหัสกว่าสยามมากนัก พระเจ้าแผ่นดินทรงคิดการรอบคอบ ห้ำหั่น รายได้ทั้งของพระองค์เอง มิใช่แต่มุ่งดุลยภาพเหล่าข้าราชการอย่างเดียว ทรงแสดงน้ำพระทัยเดดเดี่ยวว่า บ้านเมืองจะรอดได้ ทุกฝ่ายเหล่าต้องรวมใจกัน แต่ทว่า คำประกาศในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕​ กลับใช้ถ้อยคำอันเปนเทจใส่ร้ายองค์พระเจ้าแผ่นดิน



ในขณะที่พระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ทุกควบคุมตัว ข้าพเจ้าแลคุณหลวงเดชาฯ ได้คิดการแล้วว่าจะต้องรักษาพระเกียรติยศ และชีวิตทุกพระองค์ ไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ คุณพระเดชาฯ เปนห่วงสมเดจวังบางขุนพรหมซึ่งเปนเจ้านายที่ทรงชุบเลี้ยงมาเก่าก่อน จึงขันอาสาจะเข้าไปถวายอารักขา แต่การเช่นขณะนั้น พวกเราถูกเพ่งเลงอยู่มาก ข้าพเจ้าจึ่งคิดให้ คุณพระเดชาฯ สวมรอย เข้าพวกกับคณะเปลี่ยนเปลี่ยงการปกครอง แลให้ไปจับกุมสมเดจ ซึ่งในภายหลัง คุณพระเดชาฯ ได้เล่าว่าทูลกระหม่อมบริพัตรกริ้วมากที่คุณพระเดชาฯ เข้ากับคณะกลุ่มนี้ แต่คุณพระจำต้องแสร้งเช่นนั้น เพื่อให้มีโอกาสถวายอารักขาบนขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ เพราะเปนห่วงความปลอดภัยของทูลกระหม่อมอย่างที่สุด คุณพระได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ครั้งสุดท้ายลุล่วง เมื่อส่งเสดจถึงปีนัง ได้กราบพระบาทเปนครั้งสุดท้าย อันเปนความภูมิใจยิ่งของคุณพระ คุณพระเล่าให้ข้าพเจ้าฟังในภายหลังว่า สมเดจท่านไม่ทรงกล่าวอะไร จนถึงปีนัง หันมารับสั่ง “ข้าไปละ ไอ้แสง ขอบใจเอง” นั่นคงพอจะอนุมานได้ว่าคงรู้จักคุณพระดีว่า ไม่ว่าบ้านเมืองจะแปรไปในทางใด ความจงรักษ์ภักดีของคุณพระไม่เคยแปรไป ตลอดเวลาในรถไฟขบวนพิเศษนั้น คุณหลวงถูกจับตามอง แลต้องสงสัยว่า ไม่ซื่อตรงต่อคณะผู้เปลี่ยนแปลง แลจากนั้น ทั้งข้าพเจ้า คุณพระ แลสมัครพรรคพวก ก็ถูกแคลงใจมาเสมอ ด้วยว่าเมื่อองค์พระมหากษัตริย์ทรงยินยอมดำรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญแล้ว นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง สำเรจไปครึ่งหนึ่งแล้ว ท่าทีของกองทัพเรือในขณะนั้น ก็ไม่เหนด้วยกับคณะผู้ก่อการเสียทั้งหมด โดยเฉพาะแนวคิดเอาอย่างบอลเชวิคนั้น ยอมรับไม่ได้เลยทีเดียว อาทิ เค้าโครงการเศรษฐกิจ ของหลวงประดิษฐมนูธรรม เหนเปนการแย้งหลักการประชาธิปไตยของคณะผู้ก่อการเสียเอง กลับเปนว่าราษฎรไม่มีสิทธิใดในการเลือกทำกิน ดังที่ใต้ฝ่าพระบาททรงแสดงความเหนไว้ว่า จะไม่เปนไทย แลกลับลงเปนทาสเสียแล้ว


20 views0 comments

Comments


bottom of page